ศูนย์ข่าวศรีราชา - รถโดยสาร “ชาญทัวร์” สายนครพนม-ระยอง วิ่งด้วยความเร็วสูงขณะฝนตกถนนลิ่น พุ่งชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อ ที่วิ่งอยู่ข้างหน้าอย่างแรงจนรถพ่วงไหลไปกระแทกรถฮอนด้า ซีอาร์วี พังเสียหาย มีผู้บาดเจ็บ 11 ราย บนถนนหมายเลข 7 ชลบุรี-พัทยา
เมื่อเวลา 23.30 น. คืนวันที่ 14 ก.ย.58 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.พงษ์ศรันย์ วังพลับ พนักงานสอบสวน สท.ล.ย่อยทางหลวงเขาเขียว รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุก 18 ล้อ และมีผู้บาดเจ็บหลายราย บนถนนทางหลวงหมายเลข 7 ชลบุรี-พัทยา ฝั่งขาเข้าชลบุรี ใกล้กับวงแหวนต่างระดับหนองขาม หมู่ 10 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา
ในที่เกิดเหตุพบรถทัวร์โดยสารบริษัทชาญทัวร์ จำกัด สายนครพนม-ระยอง หมายเลขทะเบียน 10-7709 ขอนแก่น ซึ่งมี นายสนธยา หมื่นชรา อายุ 34 ปี เป็นคนขับรับผู้โดยสารมาจากจังหวัดระยอง เพื่อเดินทางไปยังจังหวัดนครพนม สภาพรถด้านหน้าพังยับชนอัดกับท้ายรถบรรทุก 18 ล้อ นิสสัน ยูดี สีเทา หมายเลขทะเบียน 70-3283 ระยอง ส่วนหาง 70-3275 ระยอง ของบริษัท แลนด์ ทรานสปอร์ต จำกัด ซึ่งมี นายสมจิตร เชื่อมรัมย์ อายุ 34 ปี คนขับบรรทุกม้วนเหล็กแผ่นน้ำหนักหลายตันมาจากจังหวัดระยอง เพื่อจะมุ่งไปส่งที่จังหวัดสมุทรสาคร ก่อนที่รถบรรทุกคันดังกล่าวจะไปชนท้ายรถยนต์ฮอนด้าซีอาร์วี สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 กต 6554 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีนายอภิชาต กลิ้งกลม อายุ 30 ปี ขับมาโดยรถได้รับความเสียหายที่ด้านหลังจนยุบเสียหาย
ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 11 คน หน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชาได้ให้การช่วยเหลือแล้วลำเลียงส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา 9 ราย คือ น.ส.จินตนา นันรุ่ง อายุ 35 ปี น.ส.ชไมพร บัวหาร อายุ 28 ปี น.ส.อมรทิพย์ ทาศรีภู อายุ 31 ปี น.ส.พิมพ์ใจ ไชยยะราช อายุ 28 ปี สัญชาติลาว นายวินัย เชี่ยวชาญ อายุ 31 ปี นายอิศรา สมานดวง อายุ 40 ปี น.ส.พินิจ สำราญรส น.ส.น้อย สยาราช สัญชาติลาว และ ด.ญ.ณัทธิดา เปราะสะเกตุ อายุ 11 เดือน ส่วนที่โรงพยาบาลพญาไทศรีราชา 2 ราย คือ นายปรีชา เตาสันเที๊ยะ อายุ 58 ปี น.ส.จันทร์เพ็ญ ศรีพรม อายุ 52 ปี
นายสมจิตร โชเฟอร์รถบรรทุกเผยว่า ได้ขับรถบรรทุกแผ่นเหล็กม้วนขนาดใหญ่มาตามทางด้วยความเร็วไม่มากนัก เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนัก แล้วรถทัวร์ที่วิ่งตามหลัง และอาจจะมาด้วยความเร็วสูง ประกอบกับฝนตกถนนลื่นจึงทำให้มองไม่เห็นรถบรรทุกของตนเองจึงอาจจะเบรกรถกะทันหันแต่ไม่อยู่พุ่งชนอัดท้ายรถบรรทุกอย่างแรง และแรงกระแทกส่งผลให้รถบรรทุกไปกระแทกกับรถเก๋งที่วิ่งอยู่ข้างหน้าอีกต่อหนึ่ง จนทำให้เหล็กม้วนที่บรรทุกมาน้ำหนักหลายตันยังหลุดตกลงมาที่พื้นถนน และทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายดังกล่าว
ทางเจ้าหน้าที่ และหน่วยกู้ภัยก็ได้ช่วยกันเคลียร์รถ และม้วนเหล็กออกจากพ้นผิวการจราจรเป็นการด่วน เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวจะมีรถสัญจรผ่านตลอดเวลาและอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำได้อีก พร้อมกันนี้ จะได้ทำการสอบสวนถึงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แน่ชัดเพื่อดำเนินคดีต่อคนขับรถที่ประมาทตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
