น่าน - พื้นที่การศึกษาน่าน เขต 1 เตรียมหาทางช่วยเหลือครูสาวโรงเรียนบ้านน้ำลี หลังออกโรงแฉนมโรงเรียนบูดแล้ว กลับเจอแรงกดดันหนักจนต้องยื่นหนังสือขอย้าย แถมกำชับถ้าย้ายไม่ได้ก็จะขอลาออก ขณะที่ สตง.เร่งมือสอบพิรุธบริษัทนมคู่สัญญา
วันนี้ (12 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมเร็จ อุดแดง รองผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาน่าน เขต 1 เตรียมลงพื้นที่เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ น.ส.วิไลวรรณ กองนันท์ คุณครูประจำโรงเรียนบ้านน้ำลี อ.นาหมื่น จ.น่าน ซึ่งได้ขอทำเรื่องย้ายออกจากพื้นที่ หลังถูกแรงกดดัน และกระแสต่อว่าจากกลุ่มบุคคลหลายฝ่ายว่า สร้างความเดือดร้อนในพื้นที่ ทำให้ทุกฝ่ายต้องวุ่นวายทำเอกสาร ชี้แจงหน่วยงานต่างๆ กันทุกวัน
โดย น.ส.วิไลวรรณ ระบุถึงขั้นที่ว่าหากโยกย้ายไม่ได้ ก็จะขอลาออก เนื่องจากเห็นการทำงานต่อไปในอนาคตคงยากที่จะได้รับความร่วมมือ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตการศึกษาน่าน เขต 1 บอกว่า จะเข้าพื้นที่สอบถามข้อมูล และประเมินสถานการณ์ หากรุนแรงก็จะทำการโยกย้ายเพื่อลดกระแสก่อน แต่หากยังพอประนีประนอมได้ก็จะพิจารณาช่วยเหลือให้มาอยู่ในพื้นที่เหมาะสมต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทางเขตพื้นที่การศึกษาน่านเขต 1 ขอชื่นชมคุณครูที่นำเรื่องนมบูดดังกล่าวออกมาเปิดเผยสู่สังคม เป็นเสียงสะท้อนจากครูโรงเรียนเล็กๆ จนนำไปสู่การแก้ไขที่ดีขึ้นในระดับประเทศ ซึ่งนับว่าเป็นผลดีต่อเด็กนักเรียนทุกคน และเตรียมมอบใบประกาศเป็นครูดีเด่น
ด้าน นายอุทัย ทองคุ้ม ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินพื้นที่น่าน ได้เข้าตรวจสอบโครงการนมโรงเรียนบูดดังกล่าว โดยเฉพาะเอกสารสัญญากับบริษัทผู้ผลิต และส่งนมให้แก่โรงเรียนใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น จ.น่าน หลังพบว่า บริษัทดังกล่าวอาจไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นคู่สัญญา
เนื่องจากทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า ไม่ได้เป็นสมาชิกนมคุณภาพขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อสค.) จึงจะให้มีการตรวจสอบเอกสารต่างๆ ที่บริษัทนำมาประกอบการทำสัญญาต่อคณะกรรมการ เพื่อเป็นผู้ผลิตและส่งนมให้โรงเรียนในพื้นที่ ว่า มีการแอบอ้าง หรือปลอมแปลงเอกสารหรือไม่ โดยจะประสานกับ อสค. ตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งให้คณะกรรมการทบทวนหาข้อมูลให้ชัดเจน โดยเฉพาะกระบวนการผลิต และคุณภาพของนมด้วย
โดย นายทองทรัพย์ โนทะ นายก อบต.ปิงหลวง ยืนยันว่า ทาง อบต.ได้ดำเนินจัดซื้อนมโรงเรียนตามระเบียบพัสดุทุกอย่าง ตามคำสั่งการจากองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อสค.) ระบุให้ซื้อนมจากบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.ลำปาง
ขณะที่ นายแพทย์ปิยะ ศิริลักษณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า จากตัวอย่างนมโรงเรียนบ้านน้ำลี ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น จ.น่าน ซึ่งน้ำนมมีลักษณะเป็นก้อน เหนียวข้น และมีกลิ่นเหม็น ดูด้วยสภาพตาเปล่าเห็นได้ชัดเจนว่า เป็นนมเสีย และได้ส่งตัวอย่างไปตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เชียงราย เพื่อทำการเพาะหาเชื้อจุลินทรีย์ว่าเป็นเชื้อชนิดใด ซึ่งเชื้อจุลินทรีย์ จะบ่งบอกได้ว่า เกิดการปนเปื้อนจากขั้นตอนใด ระหว่างกระบวนการผลิต การบรรจุภัณฑ์ การขนส่ง หรือการจัดเก็บ และการเพาะเชื้อต้องใช้กระบวนการให้อาหารเลี้ยงเชื้อซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ จะสามารถตรวจหาชนิดของเชื้อจุลินทรีย์ได้