กก.กำกับกิจการพลังงานรุกเปิดเวทีรับฟังปัญหาผู้ใช้ไฟฟ้าบุรีรัมย์

บุรีรัมย์ - สนง.คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เขต 6 นครราชสีมา รุกเปิดเวทีประชาสัมพันธ์เรื่องการกำกับดูแล และสิทธิของผู้ใช้ไฟฟ้าพร้อมรับฟังปัญหาของผู้ใช้ไฟ เพื่อนำข้อมูลประสาน กฟภ.แก้ไขปรับปรุง เผยที่ผ่านมาส่วนใหญ่มีเรื่องร้องเรียนปัญหาไฟตกไฟดับเนื่องจากปริมาณการใช้ไฟเพิ่มขึ้น

วันนี้ (10 ก.ย.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประจำเขต 6 (นครราชสีมา) รุกเปิดเวทีประชาสัมพันธ์ เรื่อง “การกำกับดูแล และสิทธิของผู้ใช้ไฟฟ้า ในกิจการพลังงานของประเทศไทย” ที่ศาลาอเนกประสงค์ สำนักงานสาธารณสุข อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ โดยมีผู้นำชุมชน อสม. และตัวแทนประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าจากทั้ง 23 อำเภอในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เข้าร่วมเวทีดังกล่าว

การจัดเวทีในครั้งนี้เพื่อต้องการให้ผู้ใช้พลังงานโดยเฉพาะผู้ใช้ไฟฟ้า ได้รับทราบเรื่องการคุ้มครองผู้ใช้ไฟฟ้า รวมถึงบทบาทหน้าที่ของ คณะกรรมการผู้ใช้พลังงานประจำเขต (คพช.) และรับทราบสิทธิหน้าที่ของผู้ให้บริการไฟฟ้า (กฟภ.) กับผู้ใช้ไฟฟ้า เพื่อให้ผู้ใช้ไฟได้รับบริการที่ดีขึ้น ทั้งนี้ยังได้รับฟังปัญหาของผู้ใช้ไฟฟ้าที่มาร่วมเวทีด้วยโดยส่วนใหญ่ต่างสะท้อนว่าที่ผ่านมาจะได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาไฟตกไฟดับเนื่องจากปริมาณการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ค่าไฟแพง และมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 107 บาท จากผู้ใช้บริการที่ชำระเงินเกินระยะเวลาที่กำหนด

นายนพพร ทรัพย์เห็นสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ประจำเขต 6 (นครราชสีมา) กล่าวว่า วัตถุประสงค์หลักในการเปิดเวทีครั้งนี้ เพื่อต้องการให้ผู้ใช้ไฟฟ้าได้รับรู้ถึงสิทธิหน้าที่ของตัวเองเกี่ยวกับรับบริการจากผู้ให้บริการ คือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทั้งนี้จากการสะท้อนปัญหาของผู้ใช้บริการ พบว่าส่วนมากเกิดปัญหาเกี่ยวกับการถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 107 บาท ในกรณีที่ชำระค่าไฟเกินระยะเวลาที่กำหนด แต่ยังไม่ได้ถูกถอดมิเตอร์ ซึ่งทาง คพช.จะได้รวบรวมข้อมูลปัญหาดังกล่าว ประสานไปยัง กฟภ.เพื่อดำเนินการแก้ไขปรับปรังการให้บริการต่อไป

ด้านนายวินัย เมฆขุนทด ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ประจำเขต 6 (นครราชสีมา) กล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้ายังไม่รับรู้หรือเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร เกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ของตัวเองในการรับบริการเท่าที่ควรและที่ผ่านมาส่วนใหญ่ประชาชนจะมองว่าถูกเอารัดเอาเปรียบจากการใช้บริการมากกว่า

ดังนั้นจึงได้มีการเปิดเวทีในระดับภูมิภาคขึ้นเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบถึงสิทธิและบทบาทหน้าที่รวมถึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการร้องเรียนขอความเป็นธรรมกรณีที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้ให้บริการดังกล่าวอีกด้วย