สุรินทร์ - ชาวนา อ.ศรีขรภูมิ เมืองช้างสิ้นหวัง ฝนทิ้งช่วงยาวนานต้นข้าวในนาเหี่ยวแห้งตายยกทุ่งเป็นบริเวณกว้างหลายตำบล โอดไม่เหลือให้เก็บเกี่ยวไม่มีข้าวกินและทำพันธุ์ในปีหน้า แม้ฝนตกลงมาในช่วงนี้ไม่มีประโยชน์เพราะปลายฤดูแล้ว เผยหนักสุดในรอบกว่า 50 ปี วอนรัฐบาลเจาะบาดาลนำน้ำมาปลูกพืชอื่นเลี้ยงชีพ
วันนี้ (7 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลายพื้นที่ของ จ.สุรินทร์ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงมานานนับเดือน ส่งผลให้นาข้าวหอมมะลิของเกษตรกรในเขตพื้นที่ 4 ตำบล อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ประกอบด้วย ต.ตรวจ, ต.ผักไหม, ต.ระแงง และ ต.จารพัต ขาดน้ำหล่อเลี้ยงเหี่ยวแห้งตายเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งชาวอำเภอศีขรภูมิบอกว่าเป็นปรากฏการณ์ฝนทิ้งช่วงส่งผลกระทบรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 50 ปี
โดยเฉพาะบ้านหนองแวง ต.ผักไหม อ.ศีขรภูมิ ปรากฏว่าทุ่งนาผืนใหญ่ซึ่งต้นข้าวอยู่ในช่วงเจริญเติบโตขาดน้ำเหี่ยวแห้งตายเป็นบริเวณกว้างเกือบทั่วทั้งตำบล ส่วนนาข้าวที่เหลือเขียวอยู่บ้างก็มีวัชพืชขึ้นแทนต้นข้าวเป็นจำนวนมาก
นายคำพันธุ์ เสาร์แสง อายุ 80 ปี ชาวบ้านหนองแวง ต.ผักไหม อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ บอกว่า ปีนี้แล้งมาก ถือว่าหนักที่สุดในรอบกว่า 50 ปี และไม่เคยเห็นฝนทิ้งช่วงยาวนานถึงขนาดนี้ ปกติในช่วงนี้ตามท้องนา ห้วย หนอง คลอง บึง จะมีน้ำขังเต็มไปหมด ต้นข้าวโตเต็มที่พร้อมออกรวง แต่ปีนี้ต้นข้าวกลับเหี่ยวแห้งตายหมด พวกเราคงไม่มีข้าวกินและไม่มีพันธุ์ข้าวในการทำนาปีต่อไป ซึ่งแม้หากฝนตกลงมาในช่วงนี้ก็ไม่มีประโยชน์เพราะต้นข้าวแห้งตายหมด จะปลูกใหม่ก็ไม่ทันเพราะเป็นปลายฤดูแล้ว
จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการขุดบ่อน้ำบาดาลให้ชาวนาได้มีน้ำนำไปเพาะปลูกพืชผักอย่างอื่นไว้พอได้เลี้ยงชีพ เลี้ยงครอบครัวบ้าง
ด้าน นายบุญช่วย ฉลาดมา อายุ 50 ปี (ขวาสุด) ชาวบ้านหนองแวง ต.ผักไหม บอกว่า นาข้าวตนปลูกไว้ 14 ไร่ ตอนนี้ต้นข้าวแห้งตายหมดไม่เหลืออะไรแล้ว แม้แต่ปลาที่ซื้อนำมาปล่อยในสระน้ำและนาข้าวเมื่อน้ำลดลงปลาตายหมด ตอนนี้ชาวตำบลผักไหม และตำบลใกล้เคียงไม่มีข้าวเหลือให้เก็บเกี่ยวอีกแล้วเพราะแล้งหนักมาก หากฝนตกลงมาในช่วงนี้ก็ไม่มีประโยชน์เพราะข้าวแห้งตายหมด ปลูกใหม่ก็ไม่ได้ จะไปรับจ้างที่อื่นก็ไม่ไหว ปีนี้ชาวนาเดือดร้อนมากจริงๆ ไม่รู้ปีหน้าจะเอาข้าวที่ไหนกินในครอบครัว และ จะไปหาพันธุ์ข้าวจากไหนมาปลูก