ระยอง - นายอำเภอบ้านค่าย นำกำลังตำรวจ ทหาร บุกทลายแหล่งผลิตโคเคนกลางป่ายาง พร้อมของกลางหลายรายการ
วันนี้ (7 ก.ย.) นายอลงกรณ์ แอคะรัจน์ นายอำเภอบ้านค่าย จ.ระยอง พร้อมด้วย พ.ต.ท.สังวาล ยังดี รอง ผกก.ป.สภ.หนองกรับ นายประสิทธิ์ คอกขุนทด ปลัดอำเภอบ้านค่าย น.ท.สกล กลิ่นคำหอม หัวหน้า บก.ควบคุม ชปท.ทร.ที่ 5 และ ร.ต.ท.วันชัย ลาดนอก ร้อยเวร สภ.หนองกรับ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัครเข้าค้นบ้านในป่าสวนยางพารา เลขที่ 29/1หมู่ 6 ซอยเนินสว่าง-โกรกใหญ่ ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง
พบชายผิวดำชาวต่างชาติ 2 คน และชายผิวขาวชาวต่างชาติ 1 คน ทราบชื่อคือ 1.UMEANO TOCHUMKWU EMMANUEL 2.UYAMMADU JOSEPH สัญชาติ NIGERIAN 3.GOMEZ ESCOBEDO ARMANDO WILLIAM สัญชาติ PERUANA กำลังวิ่งหนีเข้าไปในห้องน้ำ จึงเข้าตรวจค้นพบคราบสารยาเสพติดบริเวณโถส้วม
ก่อนควบคุมตัวชาวต่างชาติทั้ง 3 คนไว้ได้ และตรวจค้นรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า แคมรี่ สีดำ ทะเบียน ฆผ 8437 กทม. และรถยนต์เก๋งยี่ห้อฟอร์ด สีขาว ทะเบียน ฆฌ 4659 กทม.พบเสื้อผ้าจำนวนมาก และกล้องวงจรปิด จำนวน 5 ชุด พร้อมรายงานนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองทราบ
เบื้องต้น หลังได้รับรายงาน พล.ต.ต.ชุมพล ฉันทะจำรัสศิลป์ ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.ท.พิชิต ฟื้นแสน สว.สส.กก.3 ภาค 2 เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภาค 2 พร้อมกำลังเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และได้ตรวจค้นกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ จำนวน 3 ใบบรรจุเสื้อผ้า
จากการตรวจค้นภายในห้องพบน้ำกรดแบตเตอรี่ กรดดินปะสิว กรดเกลือ กำมะถันกรดคลอไรด์ กรดซัลฟูริค โซเดียมคาบอร์เนต น้ำมันก๊าซบรรจุปี๊บ น้ำมันดีเซล ผงสีดำเคลือบคล้ายโคคาแห้ง (สารตั้งต้น) เครื่องบดใช้มือ 1 เครื่อง ไฟเบอร์สีดำชิ้นเล็กจำนวนมาก แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า สารเคมีที่พบจำนวนมากใช้ทำอะไร
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสาน นายไกรฤกษ์ ดาวเรือง ผอ.สำนักใช้กฎหมาย ป.ป.ส.พร้อมกำลัง เดินทางมาตรวจสอบแต่ผลการตรวจสอบยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าสารดังกล่าวใช้ผลิตอะไร จึงได้ประสาน น.ส.สภาวดี บุญญาพิทักษ์ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ สำนักงาน ป.ป.ส.และคณะเดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อตรวจพิสูจน์อีกครั้ง
วันเดียวกัน น.ส.สุภาวดี บุญญาพิทักษ์ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ ป.ป.ส.และคณะเดินทางมาตรวจพิสูจน์สารดังกล่าว จากการผ่ากระเป๋าเดินทางพบคราบสีขาวติดด้านในจำนวนมาก และจากการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์พบว่า มีการนำผงสีดำ (โคคาแห้ง) เคลือบอัดแน่นผสมสารเคมีเป็นชิ้นๆ ซึ่งจะต้องใช้สารเคมีดึงออกมาทีละขั้นตอนออกมาเป็นสารละลาย จะต้องใช้สารเคมีเฉพาะทำให้ตกตระกอนเป็นยาเสพติดประเภทโคเคน
จากการสอบสวนผู้ต้องหาชาวต่างชาติทั้ง 3 คน ให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่ตรวจพบหลักฐานจำนวนมากจึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองกรับ ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน)
จากการสอบสวน นายสมศักดิ์ คมกล้า อายุ 54 ปี เจ้าของบ้าน กล่าวว่า นางพรทิพย์ อูยำมาดู ลูกสาวได้แต่งงานกับนายโจเซฟ อูยำมาดู ชาวไนจีเรีย และได้มาพักอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวโดยให้ตนไปพักอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง และเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ลูกสาวพร้อมทั้งสามี และเพื่อนชาวไนจีเรีย และชาวเปรู ได้มาพักอยู่ประมาณ 10 วัน ก็เดินทางกลับ และเมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา นายโจเซฟ ลูกเขย และเพื่อนได้มาพักอยู่ที่บ้านแต่ลูกสาวพักอยู่ที่กรุงเทพฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายอลงกรณ์ แอคะรัจน์ นายอำเภอบ้านค่าย พ.ต.ท.สังวาล ยังดี รอง ผกก.ป.สภ.หนองกรับ พร้อมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านได้ลงพื้นที่ประชุมชาวบ้านให้ช่วยสอดส่องคนในหมู่บ้าน หากพบคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านให้แจ้งทางอำเภอ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองกรับ ทราบ จึงทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบ้านค่าย และเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบความเคลื่อนไหวว่ามีชาวต่างชาติเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านหลังกล่าว จึงมีการติดตามความเคลื่อนไหวมานาน 2 เดือน พบว่ามีสิ่งผิดปกติจึงนำกำลังเข้าตรวจสอบดังกล่าว
วันนี้ (7 ก.ย.) นายอลงกรณ์ แอคะรัจน์ นายอำเภอบ้านค่าย จ.ระยอง พร้อมด้วย พ.ต.ท.สังวาล ยังดี รอง ผกก.ป.สภ.หนองกรับ นายประสิทธิ์ คอกขุนทด ปลัดอำเภอบ้านค่าย น.ท.สกล กลิ่นคำหอม หัวหน้า บก.ควบคุม ชปท.ทร.ที่ 5 และ ร.ต.ท.วันชัย ลาดนอก ร้อยเวร สภ.หนองกรับ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัครเข้าค้นบ้านในป่าสวนยางพารา เลขที่ 29/1หมู่ 6 ซอยเนินสว่าง-โกรกใหญ่ ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง
พบชายผิวดำชาวต่างชาติ 2 คน และชายผิวขาวชาวต่างชาติ 1 คน ทราบชื่อคือ 1.UMEANO TOCHUMKWU EMMANUEL 2.UYAMMADU JOSEPH สัญชาติ NIGERIAN 3.GOMEZ ESCOBEDO ARMANDO WILLIAM สัญชาติ PERUANA กำลังวิ่งหนีเข้าไปในห้องน้ำ จึงเข้าตรวจค้นพบคราบสารยาเสพติดบริเวณโถส้วม
ก่อนควบคุมตัวชาวต่างชาติทั้ง 3 คนไว้ได้ และตรวจค้นรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า แคมรี่ สีดำ ทะเบียน ฆผ 8437 กทม. และรถยนต์เก๋งยี่ห้อฟอร์ด สีขาว ทะเบียน ฆฌ 4659 กทม.พบเสื้อผ้าจำนวนมาก และกล้องวงจรปิด จำนวน 5 ชุด พร้อมรายงานนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองทราบ
เบื้องต้น หลังได้รับรายงาน พล.ต.ต.ชุมพล ฉันทะจำรัสศิลป์ ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.ท.พิชิต ฟื้นแสน สว.สส.กก.3 ภาค 2 เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภาค 2 พร้อมกำลังเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และได้ตรวจค้นกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ จำนวน 3 ใบบรรจุเสื้อผ้า
จากการตรวจค้นภายในห้องพบน้ำกรดแบตเตอรี่ กรดดินปะสิว กรดเกลือ กำมะถันกรดคลอไรด์ กรดซัลฟูริค โซเดียมคาบอร์เนต น้ำมันก๊าซบรรจุปี๊บ น้ำมันดีเซล ผงสีดำเคลือบคล้ายโคคาแห้ง (สารตั้งต้น) เครื่องบดใช้มือ 1 เครื่อง ไฟเบอร์สีดำชิ้นเล็กจำนวนมาก แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า สารเคมีที่พบจำนวนมากใช้ทำอะไร
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสาน นายไกรฤกษ์ ดาวเรือง ผอ.สำนักใช้กฎหมาย ป.ป.ส.พร้อมกำลัง เดินทางมาตรวจสอบแต่ผลการตรวจสอบยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าสารดังกล่าวใช้ผลิตอะไร จึงได้ประสาน น.ส.สภาวดี บุญญาพิทักษ์ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ สำนักงาน ป.ป.ส.และคณะเดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อตรวจพิสูจน์อีกครั้ง
วันเดียวกัน น.ส.สุภาวดี บุญญาพิทักษ์ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ ป.ป.ส.และคณะเดินทางมาตรวจพิสูจน์สารดังกล่าว จากการผ่ากระเป๋าเดินทางพบคราบสีขาวติดด้านในจำนวนมาก และจากการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์พบว่า มีการนำผงสีดำ (โคคาแห้ง) เคลือบอัดแน่นผสมสารเคมีเป็นชิ้นๆ ซึ่งจะต้องใช้สารเคมีดึงออกมาทีละขั้นตอนออกมาเป็นสารละลาย จะต้องใช้สารเคมีเฉพาะทำให้ตกตระกอนเป็นยาเสพติดประเภทโคเคน
จากการสอบสวนผู้ต้องหาชาวต่างชาติทั้ง 3 คน ให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่ตรวจพบหลักฐานจำนวนมากจึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองกรับ ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน)
จากการสอบสวน นายสมศักดิ์ คมกล้า อายุ 54 ปี เจ้าของบ้าน กล่าวว่า นางพรทิพย์ อูยำมาดู ลูกสาวได้แต่งงานกับนายโจเซฟ อูยำมาดู ชาวไนจีเรีย และได้มาพักอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวโดยให้ตนไปพักอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง และเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ลูกสาวพร้อมทั้งสามี และเพื่อนชาวไนจีเรีย และชาวเปรู ได้มาพักอยู่ประมาณ 10 วัน ก็เดินทางกลับ และเมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา นายโจเซฟ ลูกเขย และเพื่อนได้มาพักอยู่ที่บ้านแต่ลูกสาวพักอยู่ที่กรุงเทพฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายอลงกรณ์ แอคะรัจน์ นายอำเภอบ้านค่าย พ.ต.ท.สังวาล ยังดี รอง ผกก.ป.สภ.หนองกรับ พร้อมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านได้ลงพื้นที่ประชุมชาวบ้านให้ช่วยสอดส่องคนในหมู่บ้าน หากพบคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านให้แจ้งทางอำเภอ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองกรับ ทราบ จึงทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบ้านค่าย และเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบความเคลื่อนไหวว่ามีชาวต่างชาติเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านหลังกล่าว จึงมีการติดตามความเคลื่อนไหวมานาน 2 เดือน พบว่ามีสิ่งผิดปกติจึงนำกำลังเข้าตรวจสอบดังกล่าว