xs
xsm
sm
md
lg

“สมเด็จพระเทพฯ” พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดลปี 57

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นครปฐม - สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดล ประจำปีการศึกษา 2557

วันนี้ (7 ก.ย.) เวลา 08.40 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดล และสถาบันสมทบ ประจำปีการศึกษา 2557 ณ หอประชุมมหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา

ในปีการศึกษา 2557 สภามหาวิทยาลัยมหิดลทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาวิชาการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะที่ทรงเป็นเอกองค์มหาราชูปถัมภ์ มีพระมหากรุณาธิคุณต่อผู้พิการทุกระดับอายุ ทุกประเภท รวมถึงครอบครัว และองค์กรคนพิการจำนวนมาก ทรงเป็นที่ยอมรับนับถือในพระราชจริยวัตรอันประเสริฐบรรดาที่ได้พระราชทานแก่คนพิการ และการทรงงานวิชาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการนับเนื่องมาแล้วหลายทศวรรษ

สำหรับพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา 2557 มีผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดลทั้งสิ้น 6,378 ราย มีผู้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรภาคเช้า จำนวน 3,157 ราย ภาคบ่าย จำนวน 3,221 ราย โดยรวมถึงผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันสมทบ นอกจากนี้ มีผู้ทรงคุณวุฒิเข้ารับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จำนวน 7 ราย รางวัลมหาวิทยาลัยมหิดล จำนวน 8 ราย เกียรติบัตรศาสตราจารย์เกียรติคุณ 9 ราย และศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ จำนวน 4 ราย

มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นสถาบันชั้นนำของประเทศ มีการขยายหลักสูตรการศึกษาออกไปหลากหลายสาขาวิชา เพื่อให้ครอบคลุมต่อความต้องการของประเทศ ปัจจุบัน มีหลักสูตรการศึกษาที่เปิดสอนรวม 595 หลักสูตร ประกอบด้วย หลักสูตรไทย 394 หลักสูตร และหลักสูตรนานาชาติ 201 หลักสูตร เป็นมหาวิทยาลัยวิจัยที่ให้ความสำคัญต่อการผลิตผลงานวิจัยเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งในแต่ละปีมหาวิทยาลัยมหิดลมีผลงานวิชาการเป็นจำนวนมากที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารระดับนานาชาติ ส่งผลให้มหาวิทยาลัยมหิดลยังคงได้รับการจัดอันดับจากหลายสถาบัน เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของประเทศไทยตลอดหลายปีที่ผ่านมา

สำหรับพิธีพระราชปริญญาบัตรในปีนี้เป็นปีที่ 2 ที่มหาวิทยาลัยมหิดลจัดขึ้นที่หอประชุมมหิดลสิทธาคาร ซึ่งเป็นหอประชุมแห่งใหม่ของมหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับพระราชทานชื่อจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่า มหิดลสิทธาคาร ซึ่งหมายถึง อาคารที่มีความสำเร็จแห่งมหาวิทยาลัยมหิดล ชื่อในภาษาอังกฤษว่า Prince Mahidol Hall

โอกาสนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระบรมราโชวาทให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดล ความว่า “ทุกท่านที่สำเร็จการศึกษาเป็นบัณฑิตอย่างเต็มภาคภูมิในวันนี้ ล้วนได้รับการฝึกฝนอบรมมาอย่างดี ให้เป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาที่แต่ละคนได้เล่าเรียนมา เมื่อออกไปประกอบกิจการงาน ย่อมพร้อมที่จะนำความรู้ไปใช้สร้างสรรค์ความสำเร็จในสายงานที่ตนประกอบอาชีพ ท่านทั้งหลายคงจะทราบดีอยู่แล้วว่า ขณะนี้ประเทศของเราต้องการความร่วมมือจากทุกคนทุกฝ่ายอย่างมากในการพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้า

ดังนั้น บัณฑิตทุกคนจึงต้องปฏิบัติงานในหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ให้งานที่อยู่ในความรับผิดชอบบรรลุผลสำเร็จสมบูรณ์ ทั้งจะต้องรู้จักประสานความร่วมมือกับทุกคนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด จะได้ร่วมแรงร่วมความคิดกันทำงาน และสนับสนุนช่วยเหลือกัน เพื่อให้งานที่ทำสัมฤทธิผลอย่างมีประสิทธิภาพ ข้อสำคัญ ในการประสานความร่วมมือกันนี้ บัณฑิตจำเป็นต้องใช้วิจารณญาณอันรอบคอบ เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานร่วมกันได้อย่างเหมาะสม และให้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของส่วนร่วมอย่างแท้จริง หากทุกท่านพร้อมเพรียงกันปฏิบัติได้ดังนี้ งานทุกด้าน ทุกระดับของชาติก็จะบรรลุผลสำเร็จสมบูรณ์ และบ้านเมืองของเราก็จะมีแต่ความก้าวหน้ารุ่งเรืองสืบไป”







กำลังโหลดความคิดเห็น