เลย - พบอีก! เด็กชายวัย 13 ปี อ.ปากชม ต้องรับภาระดูแลแม่ป่วยโรคพาร์กินสันเพียงลำพัง ความเป็นอยู่ลำบาก อาศัยเงินรายได้เบี้ยคนพิการใช้จ่ายกินอยู่ ทั้งปั่นจักรยานไปกลับโรงเรียนกว่าวันละ 8 กม.เพื่อดูแลแม่ที่ช่วยตัวเองไม่ได้ ขณะที่พ่อหนีไปมีเมียใหม่หลังรู้ว่าแม่ล้มป่วย
ด.ช.ศิริรัฐ พุทธา อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนปากชมวิทยา อ.ปากชม จ.เลย เป็นเยาวชนอีกคนหนึ่งในสังคมไทยที่มีวิถีชีวิตแตกต่างจากเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน กินไม่อิ่มท้อง เรียนไม่เต็มที่ เพราะมีภาระหน้าที่ต้องดูแลแม่ที่ป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน ทุกวันนี้ช่วงพักเที่ยงเขาต้องปั่นจักรยานไป-กลับระหว่างบ้านกับโรงเรียนเพื่อกลับมาดูแลแม่ที่ป่วยช่วยตัวเองไม่ค่อยได้ ด้วยอาการสั่นทั้งร่างกายเพื่อป้อนข้าว ป้อนน้ำ และยาให้แก่แม่ เขาต้องตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อหุงหาอาหาร ทำงานบ้าน อาบน้ำแต่งตัวและป้อนข้าวให้แม่บังเกิดเกล้าก่อนจะปั่นจักรยานไปโรงเรียน และปั่นจักรยานกลับบ้านอีกครั้งในตอนเที่ยงเพื่อดูแลแม่ ก่อนจะปั่นจักรยานกลับไปเรียนในช่วงบ่ายอีกรอบ ด้วยระยะทางกว่า 8 กิโลเมตรต่อวัน ส่งผลทำให้เขาเรียนไม่ทันเพื่อนในชั้นเรียน
ด.ช.ศิริรัฐ อาศัยอยู่กับแม่คือ นางคำพูล พุทธา เพียงสองคน ในบ้านเลขที่ 273 หมู่ที่ 3 ต.ปากชม อ.ปากชม จ.เลย นางคำพูล มีลูกทั้งหมด 3 คน ลูกคนโตเป็นผู้หญิงได้แต่งงานไปอยู่กินกับสามีที่ จ.กาญจนบุรี หลังออกเรือนไปไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านหรือช่วยส่งเงินจูนเจือแม่และน้องๆ อีกเลย ส่วนลูกคนกลางกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.5 ที่ จ.ระยอง มีผู้เป็นลุงมาขอรับไปเลี้ยงดู เพื่อแบ่งเบาภาระของนางคำพูล
เหลือแต่เพียง ด.ช.ศิริรัฐ ที่พักอาศัยและคอยดูแลแม่มาตามลำพัง ได้รับการช่วยเหลือจากญาติพี่น้องบ้างในบางครั้ง ขณะที่ผู้เป็นพ่อหนีออกจากบ้านไปมีครอบครัวใหม่ตั้งแต่รู้ว่านางคำพูลป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน บ่อยครั้งที่เขารู้สึกอดสูกับชะตาชีวิต แม้แต่พ่อบังเกิดเกล้าก็หนีเอาตัวรอด แต่เห็นหน้าแม่ทีไรทำให้เขาฮึดสู้ให้กำลังใจแก่ตัวเองว่าจะต้องอดทนเพื่อดูแลแม่
ทุกวันนี้ ด.ช.ศิริรัฐมีความขัดสนด้านการเงิน ค่าใช้จ่ายกินอยู่ นอกจากเพื่อนบ้านญาติพี่น้องและครูที่โรงเรียนหยิบยื่นช่วยเหลือแล้ว ก็ได้รับเงินช่วยเหลือคนพิการเป็นรายเดือน แม้ไม่มากนัก แต่ก็พอถูไถใช้อย่างประหยัด
นางลำพูน หล้าพันธ์ ครูที่ปรึกษาของ ด.ช.ศิริรัฐ เปิดเผยว่า ด.ช.ศิริรัฐเป็นเด็กที่มีกริยามารยาทเรียบร้อย พูดจาไพเราะ อ่อนน้อม แต่แววตาดูเศร้ากว่าเด็กในวัยเดียวกัน ผลการเรียนค่อนข้างน่าเป็นห่วง อยู่ในเกณฑ์ต่ำเพราะเรียนได้ไม่เต็มที่แบกภาระครอบครัวตั้งแต่ยังเด็ก อ่านไม่ค่อยออก แต่พอเขียนตามได้ ทำให้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเด็กพิเศษเรียนร่วม
สำหรับผู้ใจบุญที่อยากช่วยเหลือทั้งในด้านการศึกษา และความเป็นอยู่ของ ด.ช.ศิริรัฐ ร่วมเป็นกำลังแรงใจและสนับสนุนให้สามารถเรียนต่อในชั้นสูงขึ้นไปและมีค่าใช้จ่ายดูแลแม่ สามารถบริจาคได้ที่ หมายเลขบัญชี 020120431927 ชื่อบัญชี ด.ช.ศิริรัฐ พุทธา ธนาคารออมสิน สาขาอำเภอปากชม