ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ยากไร้โคราชกว่าหมื่นคนแห่รับแจกของบริจาคในงานประเพณีทิ้งทานของมูลนิธิสว่างเมตตาธรรมสถาน (หลักเสียงเสี่ยงตึ๊ง) เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ดวงวิญญาณที่ล่วงลับ และช่วยเหลือเกื้อกูลผู้ยากไร้ เผยบ้านเมืองเจริญก้าวหน้าแต่กลับมีคนยากจนแร้นแค้นเพิ่มสูงมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (3 ก.ย.) ที่มูลนิธิสว่างเมตตาธรรมสถาน (หลักเสียงเสี่ยงตึ๊ง) ถ.โยธา เขตเทศบาลนครราชสีมา นายประเสริฐ บุญชัยสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดงานประเพณีทิ้งทาน (ซิโกว) ประจำปี 2558 โดยมี นายสุเทพ นัฐกานต์กนก เหรัญญิกมูลนิธิหลักเสียงเสี่ยงตึ๊ง ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ มีประชาชนผู้ยากไร้ คนชรา เด็ก คนพิการ และผู้ถูกทอดทิ้งในชุมชนต่างๆ ของจังหวัดนครราชสีมา เดินทางมารับแจกสิ่งของในงานทิ้งทานครั้งนี้มากกว่า 10,000 คน หลายคนจูงลูกจูงหลาน ตายาย มารับของบริจาค ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ต้องจัดระเบียบการเข้ารับแจกสิ่งของเพื่อป้องกันการแย่งชิง และไม่ให้เกิดความวุ่นวาย รวมถึงเพื่อให้ทุกคนได้รับแจกสิ่งของกลับไปอย่างทั่วถึง
นายสุเทพ นัฐกานต์กนก เหรัญญิกมูลนิธิหลักเสียงเสี่ยงตึ๊ง เปิดเผยว่า งานประเพณีทิ้งทาน (ซิโกว) คือ การทำบุญอุทิศให้ดวงวิญญาณที่ล่วงลับไปแล้ว และเป็นการช่วยเหลือเกื้อกูลผู้ยากไร้ ซึ่งปีนี้มีผู้ยากไร้เดินทางมารับแจกสิ่งของข้าวสารอาหารแห้งมากกว่าทุกปี ทางมูลนิธิฯ ได้จัดเตรียมสิ่งของไว้ จำนวน 10,000 ถุง และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง โดยได้รับบริจาคจากห้างร้าน พ่อค้า ประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมาที่มีจิตศรัทธาร่วมกันทำบุญ
ในปีนี้ประชาชนมารอรับแจกทานมีจำนวนเพิ่มมากกว่าปีที่ผ่านมา เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าแม้สังคมเจริญก้าวหน้าขึ้นมากแต่กลับมีคนยากจน ยากไร้เพิ่มสูงขึ้นตามมาเช่นกัน ซึ่งคนกลุ่มนี้ไม่มีโอกาสเข้าถึงการบริการต่างๆ ของรัฐ และต้องทนอยู่อย่างแร้นแค้น
นอกจากนี้ ทางมูลนิธิฯ ได้นิมนต์พระสงฆ์จีนมาประกอบพิธีเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษที่ล่วงลับ และเจ้ากรรมนายเวร วิญญาณไร้ญาติให้มารับส่วนบุญทำบุญให้กับอดีตผู้ก่อตั้งมูลนิธิ และอดีตประธานมูลนิธิที่ล่วงลับไปด้วย
ทั้งนี้ พิธีทิ้งทาน หรือซิโกวนั้นมีตำนานที่เล่าขานว่า ในโบราณกาลพระอานนท์รู้แจ้งเห็นจริงว่าอีก 7 วันจะถึงแก่มรณภาพ จึงได้นำความกราบทูลถามสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากนั้นพระองค์จึงได้โปรดเทศนาพระอานนท์ว่า ให้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่ดวงวิญญาณที่ล่วงลับไปแล้ว จะก่อเกิดอานิสงส์มีอายุยืนยาว จึงกลายเป็นประเพณีของพี่น้องชาวจีนที่เชื่อและเลื่อมใสศรัทธาในการทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน