ศรีสะเกษ - สองผัวเมียคนงานโรงงานแป้งมันสุดเฮงถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เงินรางวัล 6 ล้านบาท เจ้าตัวเผยจะนำเงินไปใช้หนี้ ทำบุญ และเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาลูก 2 คน ภรรยาบอกพี่สาวที่เสียชีวิตไปแล้วมาเข้าฝันบอกหวยสุดแม่น
วันนี้ (2 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ที่บ้านเลขที่ 68 หมู่ 3 บ้านตาลอย ต.จานใหญ่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีบรรดาญาติพี่น้องและชาวบ้านตาลอยพากันมาแสดงความยินดี เอาฝ้ายมาผูกแขนให้ นายปิติสุข โต๊ะงาม อายุ 32 ปี และ น.ส.อภิญญา เนียมมูล อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นภรรยา เนื่องจากทั้งสองคนถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 ก.ย. 2558 ซึ่งทั้งสองคนได้นำลอตเตอรีที่ถูกรางวัลที่ 1 งวดที่ 41 ชุดที่ 71 และ 72 หมายเลข 021094 มาให้ญาติพี่น้องและผู้ที่มาแสดงความยินดีได้ชมด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมทั้งได้จัดอาหารและเครื่องดื่มมาเลี้ยงดูทุกคนด้วยบรรยากาศที่มีความสุข สนุกสนานคึกคักมาก
น.ส.อภิญญา เนียมมูล ผู้เป็นภรรยา เล่าว่า เมื่อคืนวันที่ 30 ส.ค. ได้ฝันเห็นพี่สาวของตนที่เสียชีวิตไปแล้ว และด้วยความยากจนจึงได้ถามพี่สาวว่าหวยจะออกอะไร พี่สาวตนบอกว่า ออกเลข 9 ตนสะดุ้งตื่นขึ้นมาในตอนเช้าจึงได้มาแปลความฝัน และเห็นว่าคนตายไปแล้วคือเลข 04 และ 40 ดังนั้นจึงได้นำเอามารวมกันเป็น 094 จากนั้นเช้าวันที่ 31 ส.ค. ตนและสามีจึงได้พากันไปหาซื้อลอตเตอรี่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน อ.กันทรลักษ์ ซึ่งเมื่อไปที่แผงขายลอตเตอรี่ และเห็นลอตเตอรี่มีเลข 094 ตนจึงได้หยิบขึ้นมา ซึ่งสามีได้บอกว่าชอบเลขเหมือนกันเลย และได้ซื้อเลข 94 มา 1 ใบ และอีก 1 ใบ ซึ่งเลขข้างหน้าไม่เหมือนกัน
จากนั้นได้กลับมาบ้าน และในวันที่ 1 ก.ย. ตนไปทำงานปกติที่โรงงานแป้งมัน บริษัท เอี่ยมศิริแป้งมัน จำกัด ซึ่งตนกับสามีทำงานอยู่ด้วยกัน และช่วงบ่ายของวันนี้หลังจากที่มีการออกประกาศผลรางวัลลอตเตอรี่แล้ว สามีของตนได้นำเอาลอตเตอรี่ที่ซื้อไว้มาตรวจผลรางวัลทางอินเทอร์เน็ต ผลปรากฏว่าถูกรางวัลที่ 1 ทำให้ตนและสามีดีใจมากที่ได้รับเงินรางวัล 6 ล้านบาท
ทางด้านนายปิติสุขกล่าวว่า ได้นำเอาลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ 1 ฉบับนี้ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ไว้เป็นหลักฐานแล้ว จากนั้นจะนำเอาลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลไปขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กรุงเทพฯ ซึ่งเงินรางวัลที่ได้มาจะนำเอาไปใช้หนี้สินทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 4 แสนบาท เป็นหนี้ค่างวดรถที่ค้างอยู่ จากนั้นจะนำเงินไปทำบุญส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลือจะเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาของลูก 2 คน ซึ่งตนและภรรยาจะยังคงทำงานที่บริษัท เอี่ยมศิริแป้งมัน จำกัด ต่อไปเช่นเดิม
