เชียงราย - พ่อค้า ประชาชน ตลอดจนส่วนราชการในเชียงรายที่อยู่ตามแนวเส้นทางผ่านปั่นจักรยานสื่อสารข้ามวัฒนธรรม ตามโครงการ “ปั่นรวมใจไทย” จากแม่สาย-เบตง ร่วมส่งแรงใจให้ 40 นักปั่นคึกคัก ย้ำเจตนารมณ์ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท “พระเจ้าอยู่หัว” หวังให้ชายแดนใต้สงบ
วันนี้ (26 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะนักปั่นจักรยานเพื่อสื่อสารข้ามวัฒนธรรม ตามโครงการปั่นรวมใจไทย 40 ชีวิต ซึ่งได้ปั่นจักรยานจากจุดเหนือสุดที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ปลายทางใต้สุดของประเทศ ณ อ.เบตง จ.ยะลา ระหว่าง 25 ส.ค. ถึง 1 ต.ค. รวม 38 วัน ระยะทาง 2,674 กม. ผ่านเส้นทาง 25 จังหวัด เพื่อส่งกําลังใจไปให้พี่น้องในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ปั่นจักรยานวันแรกได้ประมาณ 100 กิโลเมตร ไปถึงสำนักงานเทศบาลตำบลดงมะดะ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย
โดยนายคณพล ชัยปรมัตถ์ นายอำเภอแม่ลาว ได้นำเจ้าหน้าที่ส่วนราชการ ภาคธุรกิจเอกชน และประชาชนในพื้นที่เข้าต้อนรับ และร่วมปั่นจักรยานไปกับคณะ มุ่งหน้าต่อไปยัง อ.แม่สรวย และ อ.เวียงป่าเป้า ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับ จ.เชียงใหม่
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ล่าสุดเมื่อคณะนักปั่นเดินทางถึงจุดตรวจบ้านโป่งเหนือ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย นายประเสริฐ จิตพลีชีพ นายอำเภอเวียงป่าเป้า พร้อมด้วยชมรมจักรยาน ข้าราชการ คณะครูและนักเรียนจากสถาบันการศึกษาหลายแห่งในเวียงป่าเป้า ได้ร่วมกันให้การต้อนรับ พร้อมกับได้นำหนังสือที่กลุ่มนักเรียนของโรงเรียนบ้านโป่งนก และโรงเรียนบ้านป่างิ้วร่วมกันทำขึ้นมามอบให้แก่ทางคณะนักปั่น เพื่อเป็นกำลังใจไปถึงพี่น้องใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
หลังจากนั้นนายอำเภอเวียงป่าเป้าได้นำปั่นจักรยานพาคณะไปยังโรงเรียนเวียงป่าเป้าวิทยาคม ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า ท่ามกลางการต้อนรับจากประชาชนสองข้างทางที่นำน้ำดื่มมามอบให้ ทั้งยังได้รับการต้อนรับจากคณะครูและนักเรียนของโรงเรียนด้วยขบวนพาเหรดและดอกมะลิอย่างอบอุ่น
นอกจากนี้ ทางโรงเรียนยังได้จัดการแสดงดนตรีและเต้นรำเพื่อต้อนรับและเป็นกำลังให้กลุ่มคณะนักปั่นไปสู่จุดมุ่งหมายโดยปลอดภัย โดยมีนายอำเภอเวียงป่าเป้ากล่าวอวยพร และกลุ่มนักเรียนยังได้มอบดินที่ขุดจากเสาธงของโรงเรียน เพื่อนำไปสมทบปลูกต้นไม้ ณ ปลายทางที่เบตง
นายบูชา จันทร์ตระกูล เจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างบริษัทการบินไทย ซึ่งเป็นตัวแทนนักปั่นภาคกลาง เปิดเผยว่า การที่ตัดสินใจมาเข้าร่วมปั่นครั้งนี้เพื่อต้องการแสดงความจงรักภักดี ตามรอยเบื้องพระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และอยากเห็นชายแดนภาคใต้เกิดความสงบสุข
“แม้จะเป็นฟันเฟืองเล็กๆ ที่ไม่สามารถจะไปผลักดันอะไรได้ ก็ขอใช้เวทีนี้มาแสดงออกเพื่อให้เกิดความสงบสุข ซึ่งก็อยากให้ทางประชาชนทั่วไปทั่วประเทศ ทั้งที่ไม่อยู่ในเส้นทางผ่าน หรืออยู่ตามเส้นทางผ่านร่วมส่งแรงใจ และร่วมกันสนับสนุนกิจกรรม ซึ่งสามารถช่วยเหลือหลายช่องทาง โดยเข้าไปดูที่เฟซบุ๊กโครงการปั่นรวมใจไทยได้”
นายสุรสิทธิ์ สินุธก อายุ 66 ปี ตัวแทนนักปั่นภาคใต้ชาวนราธิวาส เปิดเผยว่า มาร่วมปั่นครั้งนี้นอกจากจะเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว ยังอยากสะท้อนความเป็นจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ภาคใต้ให้ประชาชนในจังหวัดต่างๆ ได้รับทราบว่า ความจริงแล้วใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ได้รุนแรงและน่ากลัวอย่างที่หลายคนคิด หรือพบเห็นตามสื่อแขนงต่างๆ
“3 จังหวัดชายแดนใต้ยังมีความปลอดภัย ประชาชนมีความเป็นอยู่อย่างเป็นปกติสุข มีความมั่นคงสูงคล้ายกับหลายจังหวัด มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง มีอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะอาหารทะเล จึงหวังว่ากิจกรรมครั้งนี้จะแก้ไขความไม่รู้ และแก้ไขความยากจน ไม่อยากให้คนทั่วไปแบ่งแยกว่าเป็น 3 จังหวัดภาคใต้ รวมไปถึงอยากเชิญชวนให้ไปเที่ยวภาคใต้กันให้มากๆ ด้วย”
