นครพนม - ปลัดอำเภอท่าอุเทน วางแผนจับอดีตทหารปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 20 ต่อวัน หลังลูกหนี้ร้องทุกข์ถูกข่มขู่ ก่อนรวบขณะขู่ลูกหนี้ ขยายผลรวบยกแก๊ง ยึดเงินสดกว่าครึ่งแสน พบข้อมูลมีเงินสะพัดเดือนละเกือบล้าน อ้างเคลียร์ตำรวจท้องที่ เร่งสาวถึงนายทุน
วันนี้ (26 ส.ค.) นายทศพล สินยบุตร ป้องกันจังหวัดนครพนม นายเชิดพันธ์ ผลวิเชียร ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นายดนุภพ รองไชย ปลัดอำเภอ ร.อ.ธีระ เส็งตากแดด ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 2108 อ.ท่าอุเทน ร่วมกับกำลังอส. และทหารพราน แถลงจับกุมนายวีระพล มั่นคง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ 2 ต.ทองหลาง อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี อดีตทหารเกณฑ์ปลดประจำการเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา หัวหน้าแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหดพร้อมพวก มีนายอนันท์ชัย โคกโพธิ์ อายุ 27 ปี และนายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ชาว จ.สกลนคร ของกลางเงินสด 48,560 บาท และสมุดบัญชีลูกหนี้เงินกู้หลายรายการ
โดยจับกุมได้หลังมีลูกหนี้ในพื้นที่เข้าร้องทุกข์ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอท่าอุเทน ว่าถูกแก๊งเงินกู้รายวันดอกเบี้ยโหด ติดตามข่มขู่ทวงหนี้ เกรงว่าจะถูกทำร้าย เพราะยังไม่มีเงินชำระ จึงขอความช่วยเหลือ กระทั่งระดมกำลังวางแผนบันทึกคลิปวิดีโอขณะนายวีระพลหัวหน้าแก๊งเข้าไปทวงหนี้ ข่มขู่ลูกหนี้ในพื้นที่ ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จึงเข้าตรวจสอบจับกุม ก่อนขยายผลจับเพื่อนร่วมแก๊งอีก 2 คน ยึดของกลางเงินสด บัญชีลูกหนี้ ควบคุมมาสอบสวนดำเนินคดีข้อหาร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2475 ข้อหากรรโชกทรัพย์ และข้อหาข่มขืนใจให้ยอมให้ทรัพย์สินโดยขู่เข็ญ ตามประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เกี่ยวกับความผิดการติดตามทวงหนี้ และให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ในการปราบปรามขบวนการนายทุนหนี้นอกระบบปล่อยกู้ดอกเบี้ยโหด
เบื้องต้นจากการสอบสวนทั้ง 3 รายให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายทุนใน จ.สกลนคร แต่ไม่เปิดเผยชื่อ ขับขี่จักรยานยนต์ตระเวนหาลูกค้าปล่อยเงินกู้นอกระบบ ใน จ.สกลนคร และจ.นครพนม มี อ.ท่าอุเทน อ.บ้านแพง เน้นกลุ่มเป้าหมายแม่ค้าตลาดสด หรือร้านค้า และผู้ต้องการเงินด่วนรายละ 3,000-10,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 บาทต่อวัน ซึ่งจะชำระดอกเบี้ยรวมต้นเฉลี่ยเวลา 24 วัน พร้อมเก็บเป็นรายวัน มีลูกค้าในการดูแลประมาณ 80 ราย มียอดเงินได้วันละ 20,000-30,000 บาท
ส่วนค่าจ้างจะได้ร้อยละ 10 บาทจากยอดเก็บนำมาแบ่งกัน ทำมาได้ปีกว่า และจะดูแลจ่ายส่วยรายทางให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจคันละ 1,000 บาท ที่เก็บจากจำนวนจักรยานยนต์ที่เข้ามาตระเวนในพื้นที่ แต่หากมีตำรวจตั้งด่านตรวจจะขอค่าน้ำชากาแฟครั้งละประมาณ 400-500 บาท เพื่อเคลียร์เส้นทางให้สะดวกไปทวงหนี้ในพื้นที่ แต่ยืนยันว่าไม่เคยทำร้ายลูกหนี้ ยอมรับข่มขู่เฉพาะลูกค้าที่เก็บยากเท่านั้น โดยเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนขยายผลไปหานายทุนเพื่อดำเนินตามกฎหมายปราบปรามขบวนการหนี้นอกระบบต่อไป