น่าน - เกิดเหตุเศร้าสลด เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลน่านไปตามหาพยาบาลตึกพิทักษ์ที่บ้านหลังไม่มาทำงานหลายวัน พบกลายเป็นศพขึ้นอืดยกครัวพร้อมตำรวจหนุ่มผู้เป็นสามี ลูกชายฝาแฝดวัย 7 ขวบ รวม 4 ศพ คาดตำรวจหนุ่มเครียดเรื่องงาน-หึงหวง ใช้ 11 มม.ยิงเมีย-ลูกแฝดในชุดนักเรียน ก่อนจ่อหน้าผากยิงตัวเองตายตาม
พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ ปิ่นทอง รอง ผบก.ภ.น่าน และ พ.ต.ท.ดวงยุทธ สีสองสม รอง ผกก.สอบสวน สภ.ภูเพียง พร้อมด้วย นายแพทย์ พงษ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ รอง ผอ.รพ.น่าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้เข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 188 ม.9 ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง จ.น่าน เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. คืนที่ผ่านมา (23 ส.ค.)
หลังได้รับแจ้งจากนายเกรียงไกร ไชยมงคล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลน่านว่า ไปตามนางกาญจนา วังสาร พยาบาลประจำตึกพิทักษ์ไทยล่างที่บ้านพัก เนื่องจากไม่มาทำงานหลายวัน แล้วพบว่านางกาญจนาเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพร้อมด้วยสามี และลูก
ตรวจสอบพบภายในบ้านหลังดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตถึง 4 ศพที่บริเวณประตูบ้าน โดยศพแรกคือ จ.ส.ต.สิทธิศักดิ์ วังสาร อายุ 40 ปี เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 สังกัดตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ถัดไปอีก 3 ศพ ประกอบด้วย นางกาญจนา วังสาร อายุ 37 ปี พยาบาลตึกพิทักษ์ไทยล่าง รพ.น่าน และลูกฝาแฝดคือ ด.ช.เนติภัทร-ด.ช.เนติภูมิ วังสาร อายุ 7 ขวบ นอนเสียชีวิตในชุดนักเรียน
จากการตรวจชันสูตรพลิกศพ จ.ส.ต.สิทธิศักดิ์พบร่องรอยถูกยิงเข้าที่ระหว่างคิ้ว ลูกกระสุนปืนทะลุท้ายทอยจำนวน 1 นัด สภาพศพนอนหงายโดยมีอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 11 มม. ไม่ทราบยี่ห้อ ตกอยู่ใต้รักแร้ข้างขวาของผู้ตาย และด้านขวามือพบศพของนางกาญจนา ภรรยาถูกยิงเข้าที่ขมับซ้าย ลูกกระสุนทะลุข้างขวา จำนวน 1 นัด ระหว่างกลางพบศพ ด.ช.เนติภัทร ถูกกระสุนปืนชนิดเดียวกันยิงเข้าที่บริเวณขมับซ้ายลูกกระสุนทะลุข้างขวา และตรงปลายเท้าของ จ.ส.ต.สิทธิศักดิ์ พบ ด.ช.เนติภูมิถูกยิงด้วยลูกกระสุนปืนชนิดเดียวกัน เข้าที่บริเวณขมับซ้าย ลูกกระสุนทะลุข้างขวา
นอกจากนี้ยังพบว่าศพทั้งหมดเขียวช้ำ ดำ สภาพศพขึ้นอืด และมีเลือดไหลกระจาย ส่งกลิ่นคละคลุ้งเต็มห้อง โดยเด็กชายฝาแฝดมีน้ำลายฟูมปาก และพบปลอกกระสุนอาวุธปืนตกในที่เกิดเหตุรวม 4 ปลอก คาดว่า จ.ส.ต.สิทธิศักดิ์ ยิงภรรยา และลูกฝาแฝดก่อนแล้วยิงตัวเองตายตาม โดยลงมือก่อเหตุตั้งแต่เช้าของวันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม 2558
ทั้งนี้ เพื่อนตำรวจเปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นคนมีความสามารถเรื่องคอมพิวเตอร์ จึงได้ประจำอยู่ห้องสื่อสารตำรวจภูธรจังหวัดน่านเพื่อคอยดูแลระบบ cctv และยังชอบถ่ายภาพ จึงได้ทำหน้าที่เป็นช่างภาพ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของตำรวจภูธรจังหวัดน่าน โดยนิสัยเป็นคนอารมณ์ดี จึงคาดเดาได้ยากถึงสาเหตุของการลงมือก่อเหตุสลดครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าสาเหตุน่าจะมาจากความเครียด ส่วนอะไรที่เป็นเหตุกดดันตั้งไว้ 2 ประเด็น 1. เรื่องงาน 2. เรื่องระแวงในครอบครัว เนื่องจากมีผู้ใกล้ชิดระบุว่าระยะหลังผู้ตายทะเลาะกับภรรยาบ่อยครั้งเนื่องจากทำงานเวลาไม่ตรงกัน ภรรยาเข้าเวรดึกบ่อยครั้ง ซึ่งทางตำรวจจะได้ติดต่อญาติพี่น้องมาสอบถามสาเหตุการตัดสินใจใช้ปืนยิงจนเสียชีวิตทั้งครอบครัวต่อไป และแพทย์จะได้ตรวจศพละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากพบว่าสภาพศพคล้ำดำผิดปกติ อีกทั้งศพเด็กชายฝาแฝดยังมีน้ำลายฟูมออกที่ปาก ซึ่งอาจมีการวางยาพิษก่อนลงมือยิงซ้ำด้วยปืน
ขณะนี้ญาติได้นำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดท่าล้อ ท่ามกลางความโศกเศร้าและสลดใจของญาติพี่น้อง และเพื่อนวงการตำรวจ