นครพนม - ยายวัย 70 ปีโร่ร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม ป่าไม้เข้ายืดที่ดินทำกิน กว่า 4 ไร่ อ้างนโยบาย คสช.ทวงคืนเป็นพื้นที่ฟื้นฟูป่า เผยรับมรดกจากพ่อ-แม่ มากว่า 100 ปี วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยเหลือ เดือดร้อนไร้ที่ทำกิน ทั้งที่ไม่ใช่นายทุน ด้าน ผอ.ป่าไม้ 6 เร่งตรวจสอบ ยันไม่มีนโยบายทวงคืนที่ดินทำกินขชองชาวบ้าน
วันนี้ (21 ส.ค.) นางสวรรค์ บัวสาย อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 6 บ้านถาวร ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม พร้อมด้วยนายบดี บัวสาย อายุ 45 ปี บุตรชาย ได้หอบเอกสารหลักฐานเกี่ยวข้องเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมผ่านสื่อเรียกร้องไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้องภายหลังได้รับความเดือดร้อนจากปัญหา เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เข้าตรวจยึดพื้นที่ดินทำกินราว 4 ไร่ เมื่อประมาณปี 2557 ทั้งที่ที่ดินผืนนี้เป็นที่มรดกตกทอดมาจาก รุ่นพ่อ-แม่ เพื่อใช้ทำกิน ทำไร่ ทำสวน สร้างรายได้ เลี้ยงครอบครัวมานานเกือบ 100 ปี
โดยเป็นที่ดินจับจองทำกินมาแต่พ่อ แม่ ยังไม่มีเอกสารสิทธิ แต่ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้เข้ามาขอตรวจยึดคืนเพื่อเป็นพื้นที่ปลูกป่า โครงการทวงคืนผืนป่าตามนโยบายของ คสช. แต่ปัจจุบันจากการตรวจสอบ มีการปล่อยเป็นที่รกร้างและต้นไม้ที่ปลูกฟื้นฟูป่า แห้งตายหมด โดยเจ้าของไม่สามารถเข้าไปทำไร่ ทำสวน ตามปกติได้ เนื่องจากมีคำสั่งห้ามจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่รับผิดชอบ
“ที่ผ่านมาได้เข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อขอทวงคืน เนื่องจากเป็นที่ดินทำกินผืนสุดท้ายในชีวิต รับมรดกมาจากพ่อ แม่ แต่กลับถูกยึดคืนอย่างไม่เป็นธรรม ทั้งที่ไม่ใช่นายทุน และเป็นเพียงรายเดียวของหมู่บ้าน จึงต้องการออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม เพราะกระทบความเป็นอยู่”นางสวรรค์ กล่าและเล่าต่อว่า
สำหรับที่ดินผืนดังกล่าว ตนได้รับมรดกตกทอดมาจากพ่อแม่ ตั้งแต่เกิดมา ก็ใช้ทำกิน ทำไร่ทำนาแล้ว มีการปรับพื้นที่ ล้อมรัวชัดเจน ถึงแม้ไม่มีเอกสารสิทธิ์ แต่มีหลักฐานการเสียภาษีท้องที่ ให้กับภาครัฐมาทุกปี จนกระทั่งเมื่อปลายปี 2557 มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้ามาแจ้งว่าจะขอทวงคืน เป็นพื้นที่ป่าในโครงการฟื้นฟูผืนป่า ตามนโยบาย คสช. แต่ตนได้ทักท้วงไปว่า เป็นที่ดินมรดก ทำไมต้องมาทวงคืน ทำกินมาเกือบ 100 ปีแล้ว ไม่ใช่นายทุน
แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่สนใจ เข้ามาดำเนินการจัดโครงการปลูกป่า แต่ปัจจุบันกลับปล่อยทิ้งรกร้าง ต้นไม้ที่ปลูกเพื่อฟื้นฟูป่าตายหมด และเป็นพื้นที่ตนคนเดียวในหมู่ที่ถูกยึด พื้นที่ใกล้เคียงไม่มีเอกสารสิทธิกลับไม่ถูกยึดคืน เคยเรียกร้องไปหลายหน่วยงานแต่ไม่มีหน่วยงานมาสนใจ จึงต้องออกมาเรียกร้องทวงสิทธิทำกินคืน เพราะเป็นที่ดินผืนสุดท้ายที่จะใช้ทำกินเลี้ยงชีวิต
"ปกติเคยทำไร่ ทำนา ได้เงินปีละหลาย 10,000 บาท แต่ปัจจุบันไม่สามารถเข้าไปทำกินได้ สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จึงขอวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมตตาขอที่ดินทำกินคืนให้กับเราด้วยก่อนที่พวกเราจะอดตาย"
ด้านนายวีระ มานิสสรณ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 นครพนม กล่าวว่า สำหรับนโยบายทวงคืนผืนป่า ตามนโยบายของ คสช. โดยการดำเนินการในพื้นที่ จ.นครพนม ได้มีการตรวจสอบดำเนินการทวงคืน เพื่อทำการฟื้นฟูแล้วหลายจุด เป้าหมายหลักเป็นพื้นที่ป่าสวนยาง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีพื้นที่หลายแห่ง ที่นายทุนเข้าไปบุกรุก ดำเนินการปลูกทำสวนยาง และทำการทวงคืนมาแล้วส่วนหนึ่ง รอดำเนินการอีกจำนวนมาก
แต่ยืนยันว่า ตามนโยบายเราจะเน้นในเรื่องของพื้นที่นายทุน ส่วนของชาวบ้าน เรายังไม่ดำเนินการจะต้องมีการตรวจสอบตามขั้นตอน และจะต้องไม่ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะที่ดินทำกิน ยังให้ชาวบ้านดำเนินการตามปกติ
อย่างไรก็ตาม จากปัญหาดังกล่าวจะได้มีการตรวจสอบดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป อาจมีการผิดพลาดในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ จะเข้าไปตรวจสอบช่วยเหลือเร่งด่วน