บุรีรัมย์ - เทศบาลเมืองบุรีรัมย์เร่งล่าตัวผู้ลักลอบยิงปลาบึกยักษ์น้ำหนักกว่า 200 กก. อายุ 20 ปี ในคลองละลมโบราณตาย เพื่อส่งตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย ข้อหาทำร้ายสัตว์น้ำของทางราชการ พร้อมชี้เอาผิดชาวบ้านลักลอบจับปลาสัตว์น้ำในคลองละลมโบราณ เผยสร้างความสะเทือนใจแก่ประชาชนที่มาออกกำลังกาย พักผ่อน และให้อาหารปลาในคลองละลมโบราณ
วันนี้ (20 ส.ค.) นายยุทธชัย พงษ์พณิช รองนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลเมือง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณคลองละลมโบราณลูกที่ 1 ซึ่งอยู่ใกล้กับ สภ.เมืองบุรีรัมย์ หลังเมื่อวานนี้ได้มีเจ้าหน้าที่เทศกิจพบซากปลาบึกยักษ์น้ำหนักกว่า 200 กิโลเมตร อายุมากกว่า 20 ปี ลอยตายอยู่ในคลองละลมโบราณลูกที่ 1
โดยมีบาดแผลคล้ายถูกใช้ปืนลูกดอกยิงบริเวณกลางหลัง แต่ผู้ลักลอบยิงไม่สามารถนำปลาบึกตัวดังกล่าวขึ้นจากคลองละลมโบราณได้ เนื่องจากมีขนาดตัวใหญ่จึงปล่อยซากทิ้งไว้ ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบยังพบมีชาวบ้านลักลอบตกปลาในคลองละลมโบราณดังกล่าวอยู่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตักเตือนพร้อมให้ปล่อยปลาที่จับได้ลงในคลองละลมโบราณเหมือนเดิม และหากยังพบมาลักลอบจับปลาหรือสัตว์น้ำในคลองละลมโบราณซ้ำอีกจะนำตัวส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายข้อหาลักทรัพย์ของทางราชการ
รวมทั้งจะได้เร่งหาตัวผู้ที่ลักลอบยิงปลาบึกในคลองละลมตายเพื่อนำตัวส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาทำร้ายสัตว์น้ำในคลองละลมโบราณ ซึ่งถือเป็นเขตอภัยทานและเขตห้ามจับสัตว์น้ำทุกชนิด
ทั้งนี้ กรณีที่มีผู้ลักลอบยิงปลาบึกขนาดใหญ่ในคลองละลมโบราณตาย สร้างความสะเทือนใจแก่ประชาชนที่มาออกกำลังกาย นั่งพักผ่อน และให้อาหารปลาในคลองละลมโบราณดังกล่าวด้วย ส่วนซากปลาบึกเจ้าหน้าที่ได้นำไปฝังกลบ
นายยุทธชัย พงษ์พณิช รองนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า ทางเทศบาลฯ ได้นำปลาบึกมาปล่อยไว้ในคลองละลมโบราณลูกที่ 1 และลูกที่ 2 จากทั้งหมด 6 ลูก เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา จำนวน 16 ตัว น้ำหนักตั้งแต่ 100-200 กิโลกรัม ปัจจุบันเหลือ 13 ตัว เนื่องจากได้ถูกยิงตายไป 2 ตัว และตายขณะขนย้าย 1 ตัว โดยการนำปลาบึกและปลาชนิดต่างๆ มาปล่อย เพื่อให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เป็นแหล่งท่องเที่ยว ทั้งประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวทั่วไป แต่ยังมีมือดีลักลอบทำร้ายและจับปลาที่นำมาปล่อยในคลองละลมโบราณดังกล่าวอยู่อย่างต่อเนื่อง
“ที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้เฉลี่ย 4-5 รายต่อเดือน แต่ก็ยังมีผู้ลักลอบจับสัตว์น้ำอยู่เป็นประจำ จึงขอให้ประชาชนช่วยสอดส่องในอีกทางหนึ่ง หากพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าวให้แจ้งที่เจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ได้ทันที” นายยุทธชัยกล่าว
วันนี้ (20 ส.ค.) นายยุทธชัย พงษ์พณิช รองนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลเมือง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณคลองละลมโบราณลูกที่ 1 ซึ่งอยู่ใกล้กับ สภ.เมืองบุรีรัมย์ หลังเมื่อวานนี้ได้มีเจ้าหน้าที่เทศกิจพบซากปลาบึกยักษ์น้ำหนักกว่า 200 กิโลเมตร อายุมากกว่า 20 ปี ลอยตายอยู่ในคลองละลมโบราณลูกที่ 1
โดยมีบาดแผลคล้ายถูกใช้ปืนลูกดอกยิงบริเวณกลางหลัง แต่ผู้ลักลอบยิงไม่สามารถนำปลาบึกตัวดังกล่าวขึ้นจากคลองละลมโบราณได้ เนื่องจากมีขนาดตัวใหญ่จึงปล่อยซากทิ้งไว้ ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบยังพบมีชาวบ้านลักลอบตกปลาในคลองละลมโบราณดังกล่าวอยู่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตักเตือนพร้อมให้ปล่อยปลาที่จับได้ลงในคลองละลมโบราณเหมือนเดิม และหากยังพบมาลักลอบจับปลาหรือสัตว์น้ำในคลองละลมโบราณซ้ำอีกจะนำตัวส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายข้อหาลักทรัพย์ของทางราชการ
รวมทั้งจะได้เร่งหาตัวผู้ที่ลักลอบยิงปลาบึกในคลองละลมตายเพื่อนำตัวส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาทำร้ายสัตว์น้ำในคลองละลมโบราณ ซึ่งถือเป็นเขตอภัยทานและเขตห้ามจับสัตว์น้ำทุกชนิด
ทั้งนี้ กรณีที่มีผู้ลักลอบยิงปลาบึกขนาดใหญ่ในคลองละลมโบราณตาย สร้างความสะเทือนใจแก่ประชาชนที่มาออกกำลังกาย นั่งพักผ่อน และให้อาหารปลาในคลองละลมโบราณดังกล่าวด้วย ส่วนซากปลาบึกเจ้าหน้าที่ได้นำไปฝังกลบ
นายยุทธชัย พงษ์พณิช รองนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า ทางเทศบาลฯ ได้นำปลาบึกมาปล่อยไว้ในคลองละลมโบราณลูกที่ 1 และลูกที่ 2 จากทั้งหมด 6 ลูก เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา จำนวน 16 ตัว น้ำหนักตั้งแต่ 100-200 กิโลกรัม ปัจจุบันเหลือ 13 ตัว เนื่องจากได้ถูกยิงตายไป 2 ตัว และตายขณะขนย้าย 1 ตัว โดยการนำปลาบึกและปลาชนิดต่างๆ มาปล่อย เพื่อให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เป็นแหล่งท่องเที่ยว ทั้งประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวทั่วไป แต่ยังมีมือดีลักลอบทำร้ายและจับปลาที่นำมาปล่อยในคลองละลมโบราณดังกล่าวอยู่อย่างต่อเนื่อง
“ที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้เฉลี่ย 4-5 รายต่อเดือน แต่ก็ยังมีผู้ลักลอบจับสัตว์น้ำอยู่เป็นประจำ จึงขอให้ประชาชนช่วยสอดส่องในอีกทางหนึ่ง หากพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าวให้แจ้งที่เจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ได้ทันที” นายยุทธชัยกล่าว
