ศูนย์ข่าวขอนแก่น - คืบหน้าแก๊งวัยรุ่นชายเชิดรถจักรยานยนต์หนีลอยนวลที่ขอนแก่น พนักงานสอบสวนเร่งสืบจากสัญลักษณ์ที่ปักหลังเสื้อคนร้าย พบติดสัญลักษณ์หน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง มั่นใจเป็นคนในพื้นที่
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา น.ส.ศิริพร ปนันโต อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135/191 ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ช่างเสริมสวยภายในหมู่บ้านเอื้ออาทร จังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น หลังช่วงดึกของวันดังกล่าวได้ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีแดง หมายเลขทะเบียน 7191 ขอนแก่น มาซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ ตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้านเอื้ออาทร ก่อนชะล่าใจทิ้งกุญแจไว้ที่รถและเข้าไปซื้อของเวลาไม่ถึง 5 นาทีพบว่ารถจักรยานยนต์คู่ใจหายไปแล้ว ตรวจดูกล้องวงจรปิดร้านพบ 2 คนร้ายขโมยหนีไป
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (12 ส.ค. 58) ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหลักฐานจากกล้องวงจรปิดร้านสะดวกซื้อดังกล่าวเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมในการหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
โดย พ.ต.ท.สุรเดช เพียรสร้างสรรค์ ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุดังกล่าวชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่นได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิดของร้านสะดวกซื้อ พบคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 2 คน อายุประมาณ 25-27 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขี่จักรยานยนต์วนเวียนที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้ออยู่หลายรอบเพื่อตระเวนหาเหยื่อ
กระทั่งคนร้ายเห็น น.ส.ศิริพร ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ และคนร้ายสังเกตเห็นเจ้าของรถจักรยานยนต์เข้าไปซื้อของไม่ได้ถอดกุญแจติดตัวไปด้วย จึงขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อทำทีจะเข้าไปซื้อของ ระหว่างนั้นหนึ่งในคนร้ายลงจากรถจักรยานยนต์ก่อนทำทีคุยโทรศัพท์ที่หน้าร้าน พอสบโอกาสที่เจ้าของรถเผลอรีบขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ขี่หลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
หลักฐานที่เป็นประโยชน์ขณะนี้คือ ภาพหนึ่งในคนร้ายที่สวมเสื้อโปโลสีดำ ติดสัญลักษณ์ของหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งอยู่ด้านหลังเสื้อที่อาจจะเชื่อมโยงนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้ายได้ ซึ่งจะต้องนำภาพทั้งหมดให้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องภาพถ่ายตรวจสอบอีกครั้งเพื่อความชัดเจน จากหลักฐานต่างๆ ที่หาได้ตอนนี้ทำให้ตำรวจได้ข้อมูลและรูปพรรณสัณฐานของผู้ต้องหาที่ลงมือก่อเหตุทั้ง 2 คนบ้างแล้ว มั่นใจว่าน่าจะเป็นคนในพื้นที่
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นความชะล่าใจและความเคยชินของผู้เสียหายที่คิดว่ามาซื้อสินค้าที่ไม่นานนักก็ทิ้งกุญแจไว้กับตัวรถคงไม่มีปัญหาอะไร จึงฝากแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้รถใช้ถนนและผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ให้เพิ่มความระมัดระวังและรอบคอบนำกุญแจรถติดตัวไปทุกครั้ง และไม่สตาร์ทเครื่องรถติดไว้เพราะเสี่ยงถูกโจรกรรมรถได้ง่าย