อุทัยธานี - พบแม่ตัวอย่างวัย 52 ปี สู้ชีวิตตั้งแต่ออกเรือน มีสมบัติติดตัวมากับสามีแค่ควายคนละตัว ปากกัดตีนถีบยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ “ในหลวง” ส่งลูกเรียนจบเป็นนายตำรวจ นางพยาบาล และเกษตรกรปริญญา
วันนี้ (11 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท่ามกลางบรรยากาศมหามงคลวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาฯ มหาราชินี ที่กำลังจะมาถึงในวันพรุ่งนี้ ที่จังหวัดอุทัยธานีมี “แม่สู้ชีวิต” รายหนึ่งที่ปากกัดตีนถีบจนประสบความสำเร็จในการครองเรือน เลี้ยงดู ส่งเสียลูกจนจบการศึกษามีการงานมั่นคง ถือเป็นตัวอย่างให้แก่คนในสังคมได้เป็นอย่างดี แม้จะไม่ได้ชื่อว่าเป็น “แม่ดีเด่น” ก็ตาม
โดยแม่สู้ชีวิตรายนี้คือ นางนกเล็ก โอสาร อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/1 หมู่ที่ 8 ต.หนองไผ่ อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี ซึ่งเล่าถึงชีวิตครอบครัวว่า ได้ใช้ชีวิตคู่กับนายสนธ์ โอสาร อายุ 53 ปี ตั้งแต่ออกเรือนมากว่า 30 ปี สร้างครอบครัวแบบปากกัดตีนถีบ มีสมบัติที่ได้มาจากพ่อ-แม่เพียงแค่แม่ควายคนละ 1 ตัวเท่านั้น
หลังจากนั้นก็สู้ชีวิตมาด้วยกันด้วยการเลี้ยงควายเป็นอาชีพ จนพอมีเงินมีทองซื้อที่ทำนา โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาปรับใช้ในการดำเนินชีวิต ต่อมาได้มีลูกชาย-ลูกสาว รวม 3 คน ก็ยิ่งทำให้ต้องมีความขยัน อดทน อดออม เพื่อเก็บเงินส่งเสียให้ลูกๆ ได้เรียนจบสูงๆ กันให้ได้ทุกคน
นอกจากการทำนาและเลี้ยงควายเป็นอาชีพแล้ว ในครอบครัวยังได้เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ ปลูกพืชผักสวนครัวต่างๆ ไว้กินเอง ที่เหลือขาย และแบ่งปันให้เพื่อนบ้าน-ญาติมิตร ซึ่งในแต่ละวันแทบไม่มีรายจ่าย
นางนกเล็กบอกว่า ระหว่างที่ลูกยังเรียนชั้นประถม และมัธยมลูกๆ ก็ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน เลี้ยงควาย หรือทำอะไรทุกอย่างที่ผ่อนแรงพ่อแม่ และพร่ำสอนให้ลูกๆ เป็นคนดี ไม่เกเร คบเพื่อนดี ให้เป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่เอาเปรียบใคร และไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จนลูกๆ ทุกคนเรียนจบปริญญากันทั้ง 3 คน และมีการมีงานทำที่มั่นคงกันทุกคน
โดยคนโตเป็นข้าราชการตำรวจและสามารถสอบเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตรได้ ปัจจุบันมียศเป็นร้อยตำรวจโท คือ ร.ต.ท.รังสรรค์ โอสาร ตำแหน่งพนักงานสอบสวนของ สภ.ลานสัก จ.อุทัยธานี, คนที่ 2 นางสาวรักฤทัย โอสาร เป็นพยาบาลประจำอยู่ที่โรงพยาบาลค่ายจิระประวัติ จ.นครสวรรค์ และคนที่ 3 นางสาวสุพรรษา โอสาร จบปริญญาตรี คณะพืชศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ กลับมาอยู่บ้านใช้วิชาความรู้ที่เรียนมาทำอาชีพเกษตรกรรมกับครอบครัว
หลังจากลูกๆ เรียนจบมีการงานที่มั่นคงแล้วชีวิตก็สบายขึ้นมาก ลูกๆ ทุกคนก็เป็นคนดี และครอบครัวก็เป็นที่รักใคร่ของบรรดาญาติๆ พี่น้อง และเพื่อนบ้านทุกคนก็ต่างมีความภาคภูมิใจที่มีแม่ที่เป็นผู้ประเสริฐ เป็นผู้ที่ทุ่มเทมากับพ่อ และจะยึดแม่-พ่อเป็นตัวอย่างในการดำเนินชีวิตต่อไปข้างหน้าอย่างมั่นคง