xs
xsm
sm
md
lg

พ่อค้าเมืองบุรีรัมย์ร้องศูนย์ดำรงธรรม ล่าสิบแปดมงกุฎโกงเงินร่วม 100 ล้านหนีลอยนวล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นักธุรกิจในจ.บุรีรัมย์ หลายรายนำบันทึกแจ้งความ ร้องศูนย์ดำรงธรรมบุรีรัมย์ให้ช่วยติดตามสองสามีภรรยา มาลงโทษ
บุรีรัมย์ - เจ้าของกิจการหลายรายโร่พึ่งศูนย์ดำรงธรรมช่วย หลังโดนครอบครัวสิบแปดมงกุฎ รวมหัวหลอกให้เล่นแชร์ ร่วมทำธุรกิจ และโกงเงินสารพัด แล้วหอบเงินหนีลอยนวล ชี้มีผู้ตกเป็นเหยื่อนับ 10 ราย ยอดเงินร่วม 100 ล้านบาท พร้อมตั้งรางวัลนำจับกว่า 2.5 แสนบาท

วันนี้ (7 ส.ค.) นายพนมชัย เทิดธีรธรรม หรือเสี่ยเพ็ง อายุ 61 ปี เจ้าของร้านค้าส่งรายใหญ่ “มัสลินการค้า” ตั้งอยู่สี่แยกสุขสำราญ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ และผู้ประกอบธุรกิจทั้งใน อ.ปะคำ และ อ.นางรอง อีกหลายราย ทยอยนำสำเนาบันทึกแจ้งความเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.บุรีรัมย์ ให้ช่วยเหลือ หลังถูกนายรณรงค์ บุญเสือ อายุ 38 ปี นางศารัตติยา บัวลอย อายุ 39 ปี สองสามีภรรยา ซึ่งเปิดปั๊มน้ำมันอยู่ริมถนนบุรีรัมย์-นางรอง ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ และกิจการร้านคาร์แคร์ โกงเงินไปหลายล้านบาท

โดยสองสามีภรรยารวมหัวกับญาติพี่น้องหลอกให้ร่วมเล่นแชร์ ร่วมทำธุรกิจ และล่าสุดหลอกว่าจะนำเงินไปซื้อน้ำมันที่แหลมฉบัง จ.ชลบุรี มีเหยื่อซึ่งเป็นปั๊มสาขาย่อยหลงเชื่อยอมจ่ายเงินไปหลายรายแต่กลับไม่ได้ทั้งเงินคืนและน้ำมัน และยังพบว่าปั๊มน้ำมันและร้านคาร์แคร์ของสองสามีภรรยาปิดเงียบมาหลายเดือนแล้ว โทรศัพท์ไม่สามารถติดต่อได้ คาดว่าจะหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว

จากข้อมูลทราบว่า มีผู้ตกเป็นเหยื่อถูกครอบครัวแก๊งสิบแปดมงกุฎนี้กว่า 10 ราย สูญเงินร่วม 100 ล้านบาท บางรายเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะแต่ละคนถูกหลอกตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้านบาท มีนักธุรกิจรายหนึ่งใน อ.นางรอง ถูกหลอกสูญเงินกว่า 3 ล้านบาท โดยผู้เสียหายรายนี้ถึงขั้นประกาศว่าหากใครมีเบาะแสจนสามารถนำไปสู่การจับกุมกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้จะได้รางวัลนำจับ 250,000 บาท

นายพนมชัย เทิดธีรธรรม เจ้าของร้านค้าส่งรายใหญ่ใน อ.ปะคำ กล่าวว่า ตนรู้จักและคุ้นเคยกับนายรณรงค์ มาสักระยะแล้ว เพราะนายรณรงค์เปิดปั๊มน้ำมันและร้านคาร์แคร์อยู่ที่ อ.นางรอง ที่ผ่านมาเคยฝากเงินนายรณรงค์ไปซื้อน้ำมันเพื่อมานำเก็บไว้เติมรถบรรทุกส่งของที่ร้านอยู่หลายครั้งจนเกิดความเชื่อใจกัน กระทั่งล่าสุดนายรณรงค์บอกว่าไม่มีเงินทุนที่จะไปซื้อน้ำมัน จึงให้ยืมไปก่อน 500,000 บาท และยืมกับลูกสาวอีก 500,000 บาท รวมเป็น 1 ล้านบาท แต่กลับไม่ได้คืนทั้งน้ำมันและเงิน เมื่อไปติดตามทวงถามเห็นปั๊มปิดและไม่สามารถติดต่อได้มานานกว่า 5 เดือนแล้ว จึงเข้าแจ้งความและร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรมให้ช่วยติดตามจับกุมกลุ่มบุคคลดังกล่าวมาดำเนินคดี และนำเงินกลับมาคืน ทั้งไม่อยากให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวไปหลอกลวง สร้างความเดือดร้อนเสียหายแก่บุคคลอื่นอีก หากใครแจ้งเบาะแสจนสามารถติดตามจับกุมตัวได้จะให้รางวัลนำจับ 200,000 บาท

ด้าน น.ส.จุรีพร ขวัญหมั่น อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 ม.18 ต.ประสุข อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ปัจจุบันมาประกอบธุรกิจอยู่ที่ จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่รู้จักคุ้นเคยกับนางศารัตติยา แต่รู้จักกับ น.ส.ณัฐนันท์ เจริญภัสร์ธนากุล ซึ่งประกอบธุรกิจอยู่ใน อ.นางรอง โดย น.ส.ณัฐนันท์ได้ชวนเล่นแชร์ เห็นว่าเป็นคนรู้จักและเชื่อใจจึงตัดสินใจเล่น ช่วงแรกเล่นเพียงไม่กี่บาท กระทั่งระยะหลังมีคนเข้ามาเล่นหลายคน โดยบางคนไม่เคยเห็นหน้ากันด้วยซ้ำ ใช้วิธีโอนเงินผ่านบัญชี โดยระยะหลังตัดสินใจเล่นในวงเงินที่มากขึ้นเป็นหลักแสน นางศารัตติยาซึ่งเป็นผู้ถือเงินเท้าแชร์ได้หอบเงินหนีไปพร้อมสามี และญาติพี่น้องที่รวมหัวกันโกงผู้ประกอบธุรกิจอีกหลายราย โดยแต่ละคนจะโดนหลอกวิธีที่แตกต่างกันไป

ขณะที่ทางศูนย์ดำรงธรรมหลังรับเรื่องได้ประสานกับทางตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามตัวผู้ที่ถูกกล่าวหามาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป โดยจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย


กำลังโหลดความคิดเห็น