จันทบุรี - หนุ่มใหญ่ขับรถพ่วงไม่ชำนาญเส้นทาง รถเกี่ยวสายไฟฟ้าแรงสูงขาด เสาไฟฟ้าล้มหักโค่นเสียหาย 9 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับนานกว่า 3 ชั่วโมง กลางเมืองจันทบุรี ส่งผลทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน และส่งผลทำให้การจราจรติดขัด เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดเส้นทางผ่านเข้าออก
วันนี้ (6 ส.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. ร.ต.ท.พิชิต สายกระสุน ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรธรเมืองจันทบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีรถพ่วง 18 ล้อ ได้ขับรถพ่วงมาเกี่ยวสายไฟฟ้าแรงสูงขาด เสาไฟฟ้าล้มหักโค่นเสียหาย 9 ต้น และส่งผลให้ไฟฟ้าดับสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ เหตุเกิดบริเวณถนนสายมหาราช หน้าลานจอดรถฝากจันท์ ตำบลวัดใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจสอบ และประสานเจ้าหน้าที่แขวงการทาง และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าให้ช่วยซ่อมแซมเสาไฟฟ้า และจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่ชาวบ้านด้วย
หลังรับแจ้ง ร.ต.ท.พิชิต สายกระสุน ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรธรเมืองจันทบุรี ได้รุดไปที่เกิดเหตุเมื่อเดินทางไปถึงพบรถพ่วง 18 ล้อ ที่บรรทุกปุ๋ยมาเต็มคัน สีขาว หมายเลขทะเบียนตัวแม่ 79-0232 กรุงเทพมหานคร และหมายเลขทะเบียนตัวลูก 79-0234 กรุงเทพมหานคร พบท้ายของตัวลูกได้เกี่ยวกับสายไฟฟ้าแรงสูงขาด และทำให้เสาไฟฟ้าจำนวน 9 ต้น ล้มหักโค่นเสียหาย ส่งผลทำให้ไฟฟ้าดับนาน 3 ชั่วโมง ทำให้ชาวบ้านไม่มีไฟฟ้าใช้
ต่อมา ทราบชื่อคนขับรถพ่วง คือ นายดารา ไวสิงห์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 ตำบลระหาน อำเภอจตุรัส จังหวัดชัยภูมิ ยืนรอให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่
ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานให้เจ้าหน้าที่แขวงการทางจันทบุรี และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดจันทบุรี ได้เข้ามาดำเนินการแก้ไขปรับปรุงสายไฟฟ้าที่ขาด และเสาไฟฟ้าที่ล้มหักโค่นเพื่อเร่งจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่ชาวบ้านได้ใช้เหมือนเดิมแล้ว นอกจากนี้ ยังทำให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดเป็นทางยาว เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดการจราจร และให้ผู้ใช้ถนนหลีกเหลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน
จากการสอบถาม นายดารา คนขับรถพ่วง 18 ล้อ ได้ความว่า ตนเองจะนำปุ๋ยไปส่งในตัวเมืองจันทบุรี แต่ไม่ชำนาญเส้นทางเลยขับรถพ่วงเพื่อจะกลับรถ ประกอบกับตนเองมองไม่เห็นสายไฟฟ้าด้วยทำให้ด้านท้ายของตัวพ่วงได้ไปเกี่ยวสายไฟฟ้าแรงสูงจนขาด ก่อนที่เสาไฟฟ้าอีก จำนวน 9 ต้น จะล้มหักโค่นได้รับความเสียหายเช่นกัน
ทั้งนี้ ตนเองยอมรับว่าไม่ชำนาญเส้นทางจึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ล่าสุด เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้จ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่ชาวบ้านได้ใช้ตามปกติเหมือนเดิมแล้ว