นครพนม - ผู้ว่าฯ นครพนมสั่งทุกอำเภอพร้อมรับมือน้ำท่วมหลังระดับน้ำโขงสูงเกิน 11 เมตร ห่างจากจุดวิกฤตแค่ 1.45 เมตร ย้ำกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเตือนลูกบ้านให้พร้อมขนย้ายเด็ก คนชรา สินทรัพย์มีค่าขึ้นสู่ที่ปลอดภัย ด้านหน่วย นรข.เตรียมเรือทุกลำให้สามารถช่วยผู้ประสบภัยทางน้ำตลอด 24 ชม.หากเกิดน้ำหลากท่วมฉับพลัน
เช้าวันนี้ (5 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เรียกประชุมด่วนหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือถึงความพร้อมเตรียมรับมือน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำโขงขณะนี้เพิ่มสูงขึ้นใกล้จุดวิกฤต
โดยที่ประชุมเห็นชอบให้เปิดศูนย์รับแจ้งเหตุอุทกภัยในทุกอำเภอเพื่อให้สามารถให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้ทันท่วงที พร้อมกับให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในที่ลุ่มน้ำให้เตรียมพร้อมอพยพขนย้ายเด็กและผู้สูงอายุและข้าวของเครื่องใช้ไปอยู่ในที่ปลอดภัย และให้เทศบาลเมืองนครพนมเตรียมเครื่องสูบน้ำเพื่อสูบระบายน้ำลงสู่น้ำโขงหากมีฝนตกหนัก
นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ล่าสุดขณะนี้ระดับน้ำโขงวัดได้ 11.20 เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อเย็นวานนี้ 20 เซนติเมตร ห่างจากจุดวิกฤตที่ 12.45 เมตร อยู่เพียง 1.45 เมตร ซึ่งทางจังหวัดได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อซ้อมแผนการป้องกันเหตุไว้ล่วงหน้าเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นได้
โดยในเขตเทศบาลเมืองนครพนม หากระดับน้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นมาถึงระดับ 12 เมตรก็จะสูงกว่าระดับท่อระบายน้ำของเทศบาลฯ หากประเมินสถานการณ์ว่าระดับน้ำจะสูงกว่าระดับท่อระบายน้ำแล้วต้องทำการปิดปากท่อระบายน้ำแล้วเดินเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำออกแทน
นอกจากนี้ ยังมีรายงานเหตุน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรในลุ่มน้ำศรีสงครามและลุ่มน้ำอูน ที่เริ่มล้นตลิ่งและเอ่อท่วมบ้านเรือนราษฎร ที่บ้านท่าบ่อ ต.ท่าบ่อ อ.ศรีสงคราม ชาวบ้าน 20 หลังริมน้ำได้รับผลกระทบแล้ว และมีพื้นที่การเกษตรเสียหายแล้วเบื้องต้นเป็นจำนวน 15,000 ไร่ และมีความเสี่ยงที่ต้นข้าวจะเน่าตายเพราะเป็นต้นข้าวเพิ่งปลูกใหม่หมาดๆ ราวกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ส่วนพื้นที่อื่นยังอยู่ระหว่างการสำรวจ ตอนนี้ทางอำเภอได้มีการเตรียมขนย้ายสิ่งของชาวบ้านที่อยู่ริมน้ำขึ้นสู่ที่สูงเพื่อความปลอดภัย
พลเรือตรี อารักษ์ แก้วเอี่ยม ผบ.นรข.นครพนม เปิดเผยถึงความพร้อมรับมือเมื่อเกิดน้ำท่วมว่า ขณะนี้ได้กำชับให้สถานีเรือตลอดแนวริมฝั่งแม่น้ำโขงทุกอำเภอได้เตรียมพร้อมเรือทุกลำคอยช่วยเหลือชาวบ้านริมโขงที่ประสบภัยทางน้ำแล้วตลอด 24 ชั่วโมงเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น นอกจากนี้ทางหน่วยยังได้เตรียมเรือท้องแบนและรถยกพื้นสูงไว้คอยช่วยเหลือตามหมู่บ้านเมื่อเกิดน้ำท่วมถนนไม่สามารถสัญจรทางรถได้ ส่วนใหญ่ปัญหานี้มักจะเกิดขึ้นตามหมู่บ้านในเขตอำเภอท่าอุเทนเมื่อน้ำโขงหนุนน้ำป่าแต่ตอนนี้ยังไม่เกิดปัญหา
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการรวบรวมสถิติเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครพนมนั้น หากระดับน้ำโขงเพิ่มสูงขึ้น 12 เมตร น้ำโขงจะหนุนน้ำป่าระบายลงสู่ลำน้ำโขงยาก ถ้าหากมีฝนตกหนักสมทบอีกจะเกิดน้ำท่วมนาข้าวตามแนวลำน้ำโขงทันทีในเขต อ.บ้านแพง อ.ท่าอุเทน อ.เมือง อ.ธาตุพนม
ส่วนในเขตริมลำน้ำโขงเทศบาลเมืองจะเป็นพื้นที่สูงระดับน้ำโขงจะต้องขึ้นเลย 13 เมตรถึงจะเป็นจุดวิกฤต เมื่อฝนตกน้ำจะท่วมทันทีและจะต้องสูบลงน้ำโขงเท่านั้น
ส่วน อ.ศรีสงคราม จะเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำสงครามจะมีน้ำป่าไหลมาจาก จ.สกลนครผ่านลำน้ำอูนลงสู่ลำน้ำสงครามและจะไหลลงสู่น้ำโขงที่ปากน้ำไชยบุรี อ.ท่าอุเทนไม่ได้ ทำให้เกิดน้ำท่วมทุกปี ไม่ว่าจะเป็นนาข้าวหรือบ้านเรือนชาวบ้านที่ปลูกริมน้ำตลอดจนถนนซึ่งชาวบ้านมีประสบการณ์เอาตัวรอดจนชินมาแล้ว