พิจิตร - ลำน้ำน่านเมืองชาละวันคึกคัก ฝีพายวัยฉกรรจ์แห่นำเรือลองสนามซ้อมมือ เตรียมลงแข่งเรือยาวประเพณีตามวัดริมน้ำยม-น้ำน่าน ตลอดเดือนนี้ ก่อนประชันฝีมืองานแข่งเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน “ในหลวง” หน้าวัดท่าหลวง ต้นเดือนหน้า
วันนี้ (4 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังแม่น้ำน่านที่แห้งเพราะภัยแล้งมายาวนานเริ่มมีระดับน้ำสูงขึ้น ทำให้บรรดาฝีพายวัยฉกรรจ์ในพิจิตรพากันนำเรือยาวลงน้ำน่านซ้อมพายเรือกันอย่างคึกคัก เพื่อเตรียมพร้อมลงสนามแข่งขันในงานประเพณีแข่งเรือยาวที่วัดต่างๆ ที่อยู่ริมแม่น้ำน่าน และริมแม่น้ำยม กว่า 10 แห่ง จะจัดการแข่งขันขึ้นตลอดเดือนนี้ ก่อนที่จะถึงวันแข่งเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะมีขึ้นในวันที่ 5-6 ก.ย. ณ ท่าน้ำน่านหน้าวัดท่าหลวง อ.เมืองพิจิตร
นายศักดิ์ชัย สุขอยู่ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 6 ต.บางลาย อ.บึงนาราง จ.พิจิตร ซึ่งเป็นนายท้ายเรือ “แม่โขงเอกนาวา” เรือจาก จ.นครปฐม ที่นำฝีพายเรือจำนวน 42 คนมาลงสนามซุ่มฝึกซ้อมในแม่น้ำน่านหน้าวัดท่าหลวง เปิดเผยว่า งานแข่งขันเรือยาวของวัดท่าหลวงเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ เนื่องจากมีถ้วยพระราชทานจากในหลวง ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวเรือยาวใฝ่ฝันอยากได้มาครอบครอง ดังนั้นฝีพายเรือยาวทุกลำจึงต้องซ้อมหนัก
โดยเรือของตนเป็นเรือยาวประเภท 30 ฝีพาย แต่ต้องซ้อม 42 คน เพื่อเป็นตัวสำรองด้วย ชายหนุ่มทุกคนที่มาเป็นฝีพายเรือล้วนเป็นชาวบ้าน ชาวนา ที่มีใจรักในกีฬาพายเรือ และต้องการสืบสานวัฒนธรรมประเพณี
ส่วนเรื่องรายได้นั้น นายศักดิ์ชัย นายท้ายเรือ “แม่โขงเอกนาวา” เล่าว่า เรือของตนมีผู้จัดการเรือเป็นชาว จ.นครปฐม แต่ฝีพายเรือเป็นชาวพิจิตร ทุกคนก็จะได้เบี้ยเลี้ยงวันละ 100 บาท/คน ซึ่งซ้อมกันมาเกือบเดือนแล้ว ดังนั้น การทำเรือแข่ง 1 ลำ ผู้จัดการต้องลงทุนหลายแสนบาท แต่ทุกคนก็ยอมทุ่มเทเต็มที่ เพื่อคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามให้คงอยู่สืบต่อตลอดไป