อุบลราชธานี - ผอ.โรงเรียนประถมอุบลราชธานีพร้อมชี้แจงความบริสุทธิ์ใจกรณีทุจริตสร้างสนามฟุตซอลที่ ป.ป.ช.เตรียมแจ้งข้อกล่าวหา เพราะให้เอกสารหลักฐานเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดไปแล้ว ส่วนสนามยังใช้งานได้ตามปกติ
หลังจาก ป.ป.ช.มีมติจะแจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างสนามฟุตซอลในภาคอีสาน ที่สำนักงาน ป.ป.ท.เขต 3 นครราชสีมา ได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลการทุจริตเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2557 และรวบรวมพยานหลักฐานให้ ป.ป.ช.พิจารณาไปแล้วนั้น
ล่าสุดที่จังหวัดอุบลราชธานี ผู้สื่อข่าวได้เข้าตรวจสอบสนามฟุตซอลโรงเรียนชุมชนบ้านหัวเรือ ต.หัวเรือ อ.เมือง พบสนามที่ได้รับงบประมาณ 2.5 ล้านบาท ประจำปีงบประมาณ 2555 ปัจจุบันสนามยังคงใช้การได้ดีตามปกติ โดยมีนักเรียนและชาวชุมชนใกล้เคียงเข้ามาใช้เล่นกีฬาทุกวัน แต่มีบางจุดวัสดุเสื่อมสภาพจากการใช้งานมานาน อาทิ ตาข่ายขึงรับลูกบอล ส่วนพื้นที่สนามที่เป็นพลาสติกยังสามารถใช้การได้ดีเป็นส่วนใหญ่
นายวรชัย ศิริพัฒน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนบ้านหัวเรือ กล่าวว่า ทราบข่าวที่ ป.ป.ช.จะแจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องกับการสร้างสนามฟุตซอล ทำให้เครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่มีความมั่นใจความบริสุทธิ์ เพราะได้ให้หลักฐานตามที่ทุกหน่วยงานต้องการไปหมดแล้ว รวมทั้งการก่อสร้างพื้นสนามสร้างได้มาตรฐาน ส่วนการใช้วัสดุได้ตรวจรับตามสเปกที่ส่วนกลางระบุมา เพราะครูไม่มีความรู้เรื่องวัสดุใช้ปูพื้นสนามโดยเฉพาะ
และตั้งแต่สนามสร้างเสร็จเมื่อปี 2555 นักเรียนและชุมชนได้ใช้ประโยชน์เรื่อยมา โดยใช้เป็นที่แข่งขันกีฬาของกลุ่มโรงเรียน 11 โรง ใช้แข่งกีฬาประจำตำบล นอกจากนั้นก็จะมีชุมชนเข้ามาใช้เล่นฟุตซอลทุกวันตั้งแต่เย็นถึงค่ำ เพราะ อบต.ให้การสนับสนุนติดไฟส่องสว่าง พร้อมเป็นผู้ออกค่าใช้ไฟฟ้าในสนามให้ทุกเดือน
“โดยส่วนตัวเห็นว่าการที่โรงเรียนในชนบทจะมีโอกาสได้สนามใช้เล่นกีฬาที่มีศักยภาพสูง ใช้เล่นกีฬาร่วมกันของคนชุมชนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าได้รับงบประมาณมาแล้วมีปัญหาตามมาเช่นนี้ อนาคตก็ไม่อยากได้ ทั้งที่ต้องการให้เด็กนักเรียนในชนบทมีโอกาสได้รับการพัฒนาด้านกีฬาก็ตาม”
สำหรับจังหวัดอุบลราชธานีมีโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ได้รับงบประมาณสร้างสนามฟุตซอลปี 2555-2556 จำนวน 19 โรง และทุกโรงมีบริษัทที่ชนะการประมูลเพียง 2 บริษัทราคาต่ำกว่าราคากลางเพียง 6,000-10,000 บาทเท่านั้น ส่วนวัสดุที่รับเหมาก่อสร้างมีราคาแพงกว่าราคาท้องตลาด 3-4 เท่าตัว จึงถูก ป.ป.ท.เข้าตรวจสอบการใช้งบประมาณก่อสร้างดังกล่าว