xs
xsm
sm
md
lg

มูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ลุยเข้าสบเมย มอบของพระราชทานฯ ช่วยเหยื่อน้ำท่วมโคลนถล่มวันนี้ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - คณะเจ้าหน้าที่มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) เตรียมเข้าพื้นที่นำของพระราชทานมอบแก่เหยื่อน้ำท่วม-โคลนถล่มสบเมยวันนี้ (3 ส.ค.)



วันนี้ (3 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดปัญหาน้ำท่วม ดินโคลนถล่มในพื้นที่ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ทำให้หลายหมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอกนานหลายวัน ล่าสุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาคณะเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยากได้ออกสำรวจเส้นทางระหว่างอุทยานแห่งชาติแม่เงา-บ้านแม่หลุย หมู่ที่ 4 ต.แม่สวด อ.สบเมย ก่อนที่คณะผู้แทนพระองค์จะเดินทางไปมอบสิ่งของพระราชทานฯ ในวันนี้ (3 ส.ค.)

การเดินทางก็เป็นไปอย่างยากลำบากพอสมควร ทำเอาคณะของมูลนิธิหน่วยแพทย์อาสาสภากาชาดฯ ในพระองค์ได้พบเห็นสภาพความเป็นอยู่ถึงการเดินทางของราษฎรอย่างแท้จริง

ในส่วนของการช่วยเหลือของทางภาคราชการ ทั้งทางบกและทางเรือ กรมบรรเทาสาธารณภัยศูนย์ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเขต 10 จังหวัดลำปาง ได้จัดส่งกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมเรือท้องแบนจำนวน 4 ลำ และรถทำน้ำดื่ม เพื่อแจกจ่ายแก่ประชาชนภายในพื้นที่, กรมทหารพรานที่ 36 สนับสนุนเรือหางยาวชุดเคลื่อนที่เร็วจำนวน 2 ลำไว้บริการลำเลียงรับขนส่งราษฎรและสิ่งของพระราชทานฯ

นายภูวนารถ อภินันทมงคล หัวหน้าชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเขต 10 จังหวัดลำปาง กล่าวว่า ได้รับมอบหมายหน้าที่จาก นายคมสัน สุวรรณอัมพา ผู้อำนวยการฯ เขต 10 นำอุปกรณ์เครื่องทำน้ำดื่ม ตลอดจนรถกู้ภัยและเรือท้องแบนจำนวน 4 ลำเข้ามาสนับสนุนช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่อำเภอสบเมย

ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสังเกตการณ์บริเวณสะพานข้ามลำน้ำเงา ซึ่งเป็นเขตติดต่อระหว่างจังหวัดแม่ฮ่องสอน-ตาก พบว่าเจ้าหน้าที่ อส., เจ้าหน้าที่ ปภ.จังหวัดแม่ฮ่องสอน, เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่เงา, เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 17 แม่เกาะ ยังคงปักหลักให้การช่วยเหลือชาวบ้านอยู่ตลอดเวลา โดยทำการขนย้ายสิ่งของประเภทรถจักรยานยนต์ ข้าวสาร น้ำมันที่ใช้กับรถแบ็กโฮ ตลอดจนชาวบ้านทั้งลูกเด็กเล็กแดงผ่านทางเรือ ซึ่งการทำงานเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยวมาก

เจ้าหน้าที่ ปภ.นายหนึ่งที่ปฏิบัติหน้าที่กล่าวว่า ถึงแม้ว่ากระแสน้ำจะลดลงแต่ก็ยังอันตรายเนื่องจากกระแสน้ำมันเชี่ยว และมีน้ำวนด้วย ยังเป็นจุดเสี่ยงอยู่ ส่วนแม่ค้าที่ทำการค้าขายอยู่ในสำนักงานอุทยานแห่งชาติแม่เงาซึ่งได้เดินทางออกมาพร้อมกับเรือของ ปภ.กล่าวว่าอยู่ไม่ได้ เนื่องจากน้ำขึ้นสูง ไฟฟ้าก็ดับ น้ำดื่มน้ำใช้ก็ไม่มี การสื่อสารก็ใช้ไม่ได้ถูกตัดขาดหมด







กำลังโหลดความคิดเห็น