ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจบางละมุง รวบแก๊งเขมรลัก จยย.ตามใบสั่งส่งออกไปขายชายแดน สารภาพรถเป้าหมายเน้นฮอนด้ารุ่น MSX เป็นหลัก
เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ (31 ก.ค.) พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.พัชรพล จึงตระกูล รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.คมชนะ อนันตา สวป. และกำลังตำรวจชุดปราบปรามพิเศษ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ขัามชาติ ได้ผู้ต้องหาเป็นชาวกัมพูชารวม 3 คน ทราบชื่อคือ นายใหม่ อายุ 22 ปี นายที อายุ 25 ปี และนายพร อายุ 21 ปี พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ที่ใช้ตระเวนก่อเหตุ 1 คัน อาวุธปืนขนาด 9 มม. พร้อมกระสุนขนาดเดียวกัน 7 นัด และเหล็กรูปตัวที 1 อัน
พ.ต.อ.ชนพัฒน์ เผยว่า เมื่อประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีเหตุคนร้ายโจรกรรมรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านในพื้นที่ จำนวน 2 ครั้ง จึงสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาออกหาข่าวติดตามจับกุมคนร้าย
กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 00.30 น.วันนี้ ขณะที่ตำรวจสายตรวจตู้ยามโรงโป๊ะออกตรวจตรารักษาความสงบเรียบร้อย ได้พบวัยรุ่นต้องสงสัย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาในท่าทางพิรุธ จึงไล่กวดติดตามจนสามารถจับกุมได้ 1 คน คือ นายใหม่ สัญชาติกัมพูชา พร้อมของกลางอาวุธปืน 1 กระบอก กระสุนปืน 7 นัด เหล็กรูปตัวทีที่ใช้แทงรูบล็อกกุญแจรถจักรยานยนต์ และอุปกรณ์การงัดแงะอีกหลายรายการ
ส่วนอีกคนเป็นหัวหน้าแก๊งทราบชื่อคือ นายวี สัญชาติเดียวกันหลบหนีไปได้ จึงขยายผลติดตามจับกุมนายที และนายพร เพื่อนร่วมแก๊งชาติเดียวกันซึ่งเช่าบ้านในพื้นที่อำเภอบางละมุง และจากการสอบสวนนายใหม่ ให้การรับสารภาพว่า ได้เดินทางจากกัมพูชาเข้ามาประเทศไทย ก่อนรวมตัวกับเพื่อนร่วมชาติตั้งแก๊งออกตระเวนก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ในพื้นที่เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง โดยแฝงตัวเข้าทำงานเป็นกรรมกรก่อสร้างในแคมป์คนงานต่างๆ
ทั้งนี้ รถเป้าหมายจะเน้นไปที่ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น MSX เป็นหลัก ซึ่งเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่จอดไว้บริเวณหน้าโชคชัยอพาร์ตเมนต์ ซอย 5 ธันวา หมู่ 6 ตำบลนาเกลือ ได้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า MSX จำนวน 1 คัน และล่าสุด เมื่อ 2 วัน ยังก่อเหตุซ้ำที่หน้าแฟมิลี่มาร์ท ซอย 12 ถนนพัทยา-นาเกลือ หมู่ 5 ตำบลนาเกลือ ได้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ และรุ่นเดียวกันอีก 1 คัน
จากนั้นจะโทรศัพท์นัดให้ผู้ร่วมขบวนการชาวไทยอีก 2 คน (ไม่ทราบชื่อ) ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เงิน ไม่ทราบทะเบียน มารับรถยังจุดนัดหมาย ก่อนที่จะใช้ผ้าคลุม และนำไปส่งขายที่ชายแดนประเทศกัมพูชา ซึ่งในแต่ละครั้งจะได้รับเงินส่วนแบ่งประมาณ 5,000 บาท และเคยก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 คัน
หลังการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันลักทรัพย์ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พร้อมกับจะได้ติดตามจับกุมนายวี หัวหน้าแก๊งที่หนีไปได้เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
