ศูนย์ข่าวขอนแก่น-คนร้ายเหิมลอบตัดไม้พะยูงอายุกว่า 50 ปี ในที่เอกชน แต่ต้นล้มไปทับหลังคาข้างบ้านพังเสียหาย สุดท้ายไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกไปได้ โร่แจ้งความตำรวจซุ่มจับคนร้าย เชื่อต้องหวนกลับมาไม้พะยูงแน่ ชี้ราคาต่างประเทศไม่น้อยกว่า 2-3 ล้านบาท
วันนี้ (31ก.ค.58) นายชาลี บุตรโคตร อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222 หมู่ 19 ถ.ท่าพระ-โกสุมพิสัย บ้านหนองโข่ย ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น อาจารย์ระดับ 8 สังกัด สพป.ขอนแก่น เขต 1 ได้เข้าพบพ.ต.ท.ถวัลย์ สุทธาวรัตน์ พงส.ผนพ.สภ.เมืองขอนแก่น ทำหน้าที่หน.สอบสวน สภ.ย่อยท่าพระว่า ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนลักลอบเข้ามาตัดไม้พะยูงในที่ดินเอกชนที่ติดอยู่กับบ้านของตน ไม้พะยูงได้ล้มทับหลังคาบ้านเสียหาย ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบด้วย
ที่เกิดเหตุลักลอบตัดต้นไม้พะยูง พบว่าทางเข้ามีป้ายเขียนไว้ว่า “พื้นที่ส่วนบุคคลห้ามเข้าโดยเด็ดขาด” และโซ่ที่คล้องไว้ที่หน้าประตูทางเข้าถูกเลื่อยตัดขาด ทำให้ตัวคนลอดเข้าไปได้
ภายในที่ดินมีต้นมะค่าไม่น้อยกว่า 10 ต้น และต้นไม้พะยูง 1 ต้น ลำต้นใหญ่เท่ากับ 1 คนโอบ มีความสูงประมาณ 15-20 เมตร อายุประมาณ 50 ปี เส้นรอบวง 60 เซนติเมตร ซึ่งตรงโคนต้นสูงกว่าพื้นประมาณ 1 เมตร ลำต้นถูกเลื่อยยนต์ตัดจนเกือบขาดทั้งต้น และมีเชือกไนล่อนสีเขียวมัดแน่นกับลำต้น ในลักษณะดึงลำต้นให้หักลงมาจนต้นไม้พะยูงหักลงมา แต่ไม่หลุดจากโคนต้น และล้มไปทับหลังคาบ้านของนายชาลีจนหลังคาบ้านเสียหาย
นายชาลี บุตรโคตร ผู้เสียหาย ให้การว่า เมื่อประมาณตี 3 ของคืนที่ผ่านมา มีฝนตกลงมาพรำๆ และตนนอนหลับอยู่ในบ้านได้ยินเสียงต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับบ้าน และหลังคาบ้านเสียหาย จึงได้ไปตรวจสอบ ก็พบว่าต้นไม้พะยูงหักลงมา ขณะนั้นไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไร
ตนพร้อมเพื่อนบ้านอีก 2 - 3 คน จึงได้ไปตรวจสอบในที่ดินส่วนบุคคลก็เห็นว่าต้นไม้พะยูงดังกล่าวไม่ได้หักโค่นเพราะแรงลม เพราะมองเห็นเชือกที่โยงกับโคนต้นไม้พะยูงเพื่อดึงให้หักลงมาที่พื้น และมีรอยเลื่อยยนต์ คนตัดไม่สามารถเอาออกไปจากสถานที่ได้
จึงแจ้งให้เจ้าของที่ดินที่ถูกคนร้ายลักลอบตัดไม้พะยูง น่าเชื่อว่ามาไม่น้อยกว่า 4 - 5 คน ขับรถยนต์กระบะมาจอดแล้วเข้าไปตัดต้นไม้พะยูงที่ปลูกไว้ในที่ดิน เชื่อว่าคนร้ายจะต้องหวนกลับมาใหม่ จึงต้องเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ย่อยท่าพระ เพื่อมาดักซุ่มจับคนร้าย ที่น่าจะหวนกลับมาเอาต้นไม้พะยูง ไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อว่าเป็นแก๊งมอดไม้ที่น่าจะทำเป็นขบวนการ โดยต้นไม้พะยูงที่มาลักลอบตัดในครั้งนี้ น่าจะนำไปขายให้กลุ่มนายทุนเพื่อส่งขายต่อยังต่างประเทศ ซึ่งหากสามารถนำไปขายยังต่างประเทศได้สำเร็จจะมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 2-3 ล้านบาท
