พิษณุโลก - ผู้การหน่วยทหารพัฒนาการเคลื่อนที่เร็ว (นพค.34 ) กองทัพไทย สั่งกำลังพลเตรียมพร้อมเครื่องจักรกล-เรือท้องแบบ ไม่เว้นวันหยุดรับมือฤดูน้ำหลากที่อาจจะเกิดขึ้นทุกเมื่อ ขณะที่เขื่อนแควน้อย มีน้ำเข้าเพิ่ม 15%แล้ว
วันนี้ (31 ก.ค.) พ.อ.สุขาติ แดงประไพ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 34 กองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวว่า นพค.34 ได้รับหนังสือแจ้งเตือนจากศูนย์ป้องกันภัยฯจังหวัดพิษณุโลก ถึงภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้นในห้วงฤดูฝนนี้ จึงได้สั่งการกำลังพลหน่วยเคลื่อนเร็วจำนวน 2 ชุด แต่ละชุดมีกำลัง 12 นาย เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ไม่เว้นวันหยุดยาวก็ต้องพร้อม
นอกจากนี้ กองบัญชาการกองทัพไทย ยังสั่งเช็คความพร้อมยานพาหนะ เครื่องจักรกล และเรือท้องแบนให้อยู่ในภาวะเตรียมพร้อม หากเกิดเหตุการณ์ สามารถเข้าช่วยเหลือทันที หรือถ้าประชาชนเดือดร้อน ร้องขอมา ทหารกองทัพไทยพร้อมปฎิบัติงาน
สำหรับพื้นที่ ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ คือ จังหวัดอุตรดิตถ์ อ.ลับแล แถบภูเขาสูง เช่นเดียวกับ อ.นครไทย อ.ชาติตระการ และ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เนื่องจากเป็นพื้นที่สูง มักประสบกับน้ำท่วมฉับพลัน น้ำซัดคอสะพานขาด ส่วนปัญหาดินโคล่นถล่มก็มีโอกาส แต่ความเป็นได้น้อยกว่าเมื่อเทียบกับภาคเหนือตอนบน แต่หากเกิดขึ้น นพค.34 มีเครื่องจักรหนักพร้อมช่วยเหลือ
ขณะที่สถานการณ์น้ำในเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก เริ่มดีขึ้น หลังมีฝนตก อ.นครไทย อ.ชาติตระการ อ.วัดโบสถ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำเหนือเขื่อน ล่าสุดมีน้ำไหลเข้าเขื่อน อยู่ที่ 3.240ล้าน ลบ.ม. ระดับน้ำที่ไหล 45.37 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งผลปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ที่ 141.815 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งเพิ่มจากเมื่อ 3 วันที่แล้ว 6 ล้าน ลบ.ม. น้ำใช้การ 98.815 ล้าน ลบ.ม. หรือ ร้อยละ 15.10 ของปริมาตรน้ำเก็บกัก โดยมีการระบายน้ำ 1.7280 ล้าน .ลบ.ม.ต่อวัน
นายสมหวัง ปารสุขสาร ผู้อำนวยการเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน กล่าวว่า สถานการณ์น้ำสัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มดีขึ้น เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน หวังว่าฝนจะตกตลอดฤดูกาลครั้งนี้ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนแควน้อยขึ้นเรื่อยๆ