บุรีรัมย์ - คนงานและลูกศิษย์ศูนย์ร่มโพธิ์แก้ว อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ของพระพยอม เร่งสูบน้ำใส่นาข้าวที่ขาดน้ำเพื่อนำผลผลิตไปเลี้ยงคนงาน ผู้ยากไร้ คนพิการ เด็ก และคนชรา ที่ทางวัดอุปการะดูแลอยู่ทั้ง 10 ศูนย์ กว่า 1,000 คน หลังประสบปัญหาภัยแล้งต้องลดพื้นที่เพาะปลูกข้าวลงกว่าครึ่งจากพื้นที่นากว่า 200 ไร่
วันนี้ (29 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คนงานและลูกศิษย์ศูนย์ร่มโพธิ์แก้ว สาขา 7 ต.บ้านแพ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 10 ศูนย์ของ พระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ ได้นำเครื่องสูบน้ำเร่งสูบน้ำฝนที่ตกลงมาขังอยู่ตามคลองและที่ลุ่ม ใส่นาข้าวที่ขาดน้ำจากภาวะภัยแล้งและทิ้งช่วงมานานกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา เพื่อหล่อเลี้ยงช่วยเหลือต้นข้าวที่ขาดน้ำและเหี่ยวเฉาใกล้แห้งตายกว่า 100 ไร่ ได้กลับมาชุ่มชื้นฟื้นงอกงามอีกครั้ง
ก่อนทางศูนย์ฯ จะนำผลผลิตข้าวที่ปลูกส่งให้มูลนิธิวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี เพื่อกระจายไปตามศูนย์ต่างๆ ทั้ง 10 สาขา เพื่อนำไปเลี้ยงดูคนงาน ผู้ยากไร้ คนพิการ เด็ก และคนชรา ที่ทางศูนย์ร่มโพธิ์แก้วได้อุปการะดูแลอยู่ทั้ง 10 ศูนย์ มากกว่า 1,000 คน
ในปีนี้ทางศูนย์ร่มโพธิ์แก้วบุรีรัมย์ได้ประสบปัญหาภัยแล้งอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 2 เดือน ทำให้ได้รับผลกระทบไม่มีน้ำทำนาปลูกข้าว ต้องลดปริมาณพื้นที่เพาะปลูกลงกว่าครึ่งเหลือเพียงกว่า 100 ไร่ จากพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมดกว่า 200 ไร่ จากทุกปีที่ผ่านมาทางศูนย์ฯ ได้ให้ลูกศิษย์และคนงานทำนาข้าวเต็มพื้นที่ทั้ง 200 ไร่ทำให้ผลผลิตปีนี้ที่จะนำไปเลี้ยงคนงาน ผู้ยากไร้ คนพิการ เด็ก และผู้สูงอายุลดลงตามไปด้วย
ด้านพระวุฒิ พระผู้ดูแลศูนย์ร่มโพธิ์แก้ว สาขา 7 จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ภัยแล้งปีนี้กระทบหนักกว่าทุกปีที่ผ่านมาทำให้ทางวัดต้องปลูกข้าวล่าช้าออกไปกว่า 2 เดือน ข้าวที่ปลูกกว่า 100 ไร่ก็ขาดน้ำ ทำให้ปีนี้ทางวัดทำนาได้เพียง 100 ไร่ ในพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมดกว่า 200 ไร่ พื้นที่ที่เหลือไม่สามารถปลูกได้ เนื่องจากฝนมาล่าช้า ซึ่งในปีนี้จะทำให้ผลผลิตข้าวของศูนย์ร่มโพธิ์แก้วที่จะนำไปส่งและแจกจ่ายเลี้ยงดูคนงาน ผู้สูงอายุ คนพิการ เด็ก และผู้ด้อยโอกาสที่ทางวัดอุปการะดูแลอยู่ลดน้อยลง