ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ขบวนต้นเทียนพรรษาควบคุมด้วยระบบไฮดรอลิกขยับได้เสมือนจริง พญานาค ช้างพ่นน้ำ พร้อมรูปหล่อ “หลวงพ่อคูณ” นั่งยองสอนธรรม ของวัดโพธิ์ เสร็จสมบูรณ์พร้อมเข้าร่วมงานแห่เทียนจำนำพรรษาโคราชยิ่งใหญ่ เช่นเดียวกับเทียน “การละเล่นเด็กโบราณ” ล้อสังคมยุคดิจิตอล ของวัดหนองบัวรอง หวังดึงเยาวชนสนใจร่วมสืบสานประเพณีไทย
วันนี้ (29 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดโพธิ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ขบวนต้นเทียนพรรษาควบคุมด้วยระบบไฮดรอลิก ซึ่งทำให้เป็นขบวนต้นเทียนขยับได้เสมือนจริง พร้อมมีระบบแสง สี เสียง และบรรดารูปหล่อเทียนสัตว์ป่าหิมพานต์ในพุทธประวัติสามารถพ่นน้ำได้ ภายใต้ชื่อ “เล่าเรื่องพุทธประวัติ ชมสัตว์ป่าหิมพานต์ บุญทานบารมีหลวงพ่อคูณ” นั้น ล่าสุดทีมช่างเทียนได้ทำการทดลองระบบควบคุมขบวนต้นเทียนทั้งหมด เพื่อให้มีความพร้อมในการแสดงให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ชมในงานประเพณีแห่เทียนจำนำพรรษา “เสริมบุญ สร้างบารมี แห่เทียนโคราช” ประจำปี 2558 ที่ทางเทศบาลนครนครราชสีมาจัดขึ้นวันที่ 30 ก.ค.-1 ส.ค. 2558 ที่บริเวณสวนเมืองทอง, สวนอนุสรณ์สถาน, สวนสุรนรี และลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) โดยในช่วงทดลองระบบไฮดรอลิกได้รับความสนใจจากประชาชนบริเวณใกล้เคียงแวะเข้าชมด้วย
นายเทียน เลิศศรีศิลป์ อายุ 43 ปี ศิลปินอิสระ อยู่บ้านเลขที่ 127 ม.3 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา หัวหน้าช่างเทียนวัดโพธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ระบบไฮดรอลิก แสง สี เสียงของขบวนต้นเทียนพรรษาวัดโพธิ์มีความพร้อมเต็มที่ในการเข้าร่วมประกวดและร่วมขบวนแห่ในงานประเพณีแห่เทียนพรรษาโคราช ซึ่งระบบทั้งหมดใช้งานได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งระบบแสงไฟที่ประดับตกแต่งบนขบวน โดยพญานาคและพญาครุฑที่อยู่ด้านหน้าขบวนเทียนดวงตาจะมีแสงเปล่งประกายด้วยไฟสีแดง และพ่นน้ำออกจากปาก เช่นเดียวกัน พญาช้างสารที่อยู่ด้านข้างสามารถพ่นน้ำได้พร้อมกับส่งเสียงคำรามเสมือนจริง
ส่วนกลางขบวนต้นเทียนเป็นต้นเทียนเอกขนาดใหญ่ สามารถขยับขึ้นลงได้ด้วยระบบไฮดรอลิก ส่วนด้านท้ายขบวนมีรูปหล่อเทียนเหมือน “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ในท่านั่งยองๆ เทศนาสั่งสอนธรรมเตือนสติญาติโยม นอกจากนี้ยังมี “แมวสีสวาด” เพิ่มเติมเข้ามาด้านท้ายขบวนด้วย เพื่อความเป็นเอกลักษณ์ของ จ.นครราชสีมา ที่มีแมวชนิดนี้อยู่เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย
นายเทียนกล่าวอีกว่า ขบวนต้นเทียนพรรษาของวัดโพธิ์เกิดขึ้นจากแรงศรัทธาของประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมาที่ได้ช่วยกันบริจาคเงิน ทั้งการจัดทอดผ้าป่านำเงินมาจัดสร้างขบวนต้นเทียนขึ้นมาจนเสร็จสมบูรณ์ได้ในวันนี้ และช่างเทียนทุกคนต่างเสียสละทุ่มเทเวลาทำขบวนต้นเทียนมากว่า 2 เดือน โดยมุ่งหวังให้ขบวนต้นเทียนพรรษาของวัดโพธิ์ได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสืบสานประเพณีอันดีงามของไทย และดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเยาวชนรุ่นใหม่ให้หันมาสนใจพระพุทธศาสนา เพื่อช่วยกันจรรโลงศาสนาและสืบทอดประเพณีอันดีงามต่อไป
ขณะที่ขบวนต้นเทียนพรรษาของวัดหนองบัวรอง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นขบวนเทียนการละเล่นของเด็กสมัยโบราณ ล้อสังคมยุคดิจิตอล ซึ่งมีความแตกต่างจากเทียนของวัดอื่นๆ ที่เน้นความวิจิตรสวยงามและพุทธประวัติเป็นหลัก ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงเก็บรายละเอียดอีกเล็กน้อยและอัญเชิญต้นเทียนเอกขึ้นขบวนต้นเทียนเท่านั้น โดยรูปหล่อเด็กโบราณกว่า 70 คนในท่าการละเล่นต่างๆ เช่น ม้าก้านกล้วย เดินกะลาขาโถกเถก ปิดตาตีหม้อ ตีลูกล้อหรือหมากกลิ้งล้อ กระโดดเชือก หัวล้านชนกัน และมอญซ่อนผ้านั้น เสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงจัดวาง ตกแต่งให้สวยงามเท่านั้น
ส่วนด้านท้ายขบวนต้นเทียนพรรษาเป็นการเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นั้น ช่างอยู่ระหว่างการตกแต่งซุ้มเฉลิมพระเกียรติและอัญเชิญพระรูปหล่อเทียนของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงดนตรีไทย ขึ้นประดิษฐานบนขบวนต้นเทียนเท่านั้น