ศูนย์ข่าวศรีราชา - เสี่ยรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในเมืองพัทยา ถูกโจรใช้ท่อนเหล็กตีหัวฟุบคาทางเข้าอพาร์ตเมนต์ ถนนสายสาม ก่อนชิงกระเป๋าเงินต่างประเทศมูลค่ากว่า 6 แสนบาท หนีลอยนวล จนท.คาดคนร้ายมี 2-3 คน ซุ่มรอเหยื่อก่อนลงมือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 02.00 น. วันนี้ (25 ก.ค.) พ.ต.ต.พิทักษ์ เนินแสง พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายชิงทรัพย์เสี่ยรับแลกเงินต่างประเทศจนได้ทรัพย์สินไปกว่า 6 แสนบาท เหตุเกิดที่บริเวณทางเข้าอพาร์ตเมนต์ วิริยะอาภา ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอย 2/2 เฉลิมพระเกียรติ ถนนสายสาม พัทยาเหนือ หมู่ 5 ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี จึงนำกำลังชุดสืบสวนรุดตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบ นายสิทธิโชค เจริญพิพัฒน์สิน อายุ 57 ปี อาชีพรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในพื้นที่เมืองพัทยา สภาพศีรษะมีร่องรอยการถูกตีด้วยของแข็งจนปูดบวม นอนหมดสติกองอยู่กับพื้น โดยมีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าคลิก สีดำ หมายเลขทะเบียน จขง 477 ชลบุรี ล้มคว่ำทับร่างผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา รับตัวส่งโรงพยาบาลบางละมุง
จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทราบว่า ขณะกำลังเดินตรวจตราอยู่บริเวณอพาร์ตเมนต์ที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงคนวิ่งไล่กันมาซึ่งในครั้งแรกคิดว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่นั่งดื่มสุราอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุที่วิ่งไล่ตีกัน แต่เมื่อวิ่งออกมาดูก็พบผู้เสียหายซึ่งมีอาชีพรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ในสภาพนอนหมดสติโดยมีรถจักรยานยนต์ล้มทับร่าง และผู้เสียหายพูดเพียงว่าถูกคนร้ายชิงเงินกว่า 6 แสนบาท หลบหนีไป ตนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าตรวจสอบ
จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างละเอียดพบถุงพลาสติกสีขาว และท่อนเหล็กยาวประมาณ 1 เมตร ตกอยู่ในป่าหญ้าข้างอพาร์ตเมนต์ โดยคาดว่าน่าจะเป็นอาวุธที่เกี่ยวข้องต่อคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน โดยจะนำไปตรวจสอบหาลายนิ้วมือแฝงอีกครั้ง
ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่า คนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะมาด้วยกันประมาณ 2-3 คน และมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี ทั้งยังได้ดักเฝ้าผู้เสียหายบริเวณที่เกิดเหตุ เมื่อสบโอกาสจึงใช้อาวุธซึ่งเป็นของแข็งไล่ตีก่อนจะชิงกระเป๋าสะพายที่ภายในมีเงินสกุลต่างประเทศจำนวนดังกล่าวก่อนจะวิ่งไปขึ้นยานพาหนะหลบหนี
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ พร้อมกับจัดทีมไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป