ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ระทึก! เกิดเหตุไฟไหม้เครื่องจักรหัวลากรถไฟขบวน 241 สายอุดรธานี-โคราช ระหว่างสถานีมะค่า-ดงพลอง อ.โนนสูง ผู้โดยสารกว่า 240 ชีวิตกระโดดวิ่งหนีตายอลหม่าน เจ้าหน้าที่เร่งดับเพลิง ก่อนพาผู้โดยสารเดินทางต่อมายังปลายทางสถานีนครราชสีมา พร้อมจัดรถขบวนสำรองมาใช้งานแทน ส่วนหัวลากเสียหายส่งเข้าศูนย์ซ่อมบำรุง ยันเปิดเดินรถได้ตามปกติแล้ว
วันนี้ (23 ก.ค.) นายสมศักดิ์ เตียนพลกรัง นายสถานีรถไฟนครราชสีมา เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากพนักงานขับรถไฟ ขบวนที่ 416 สายอุดรธานี-นครราชสีมา ซึ่งเป็นรถไฟดีเซลราง เกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นบริเวณโบกี้ที่ 1 ซึ่งเป็นส่วนหัวลากรถจักร โดยไฟได้ลุกไหม้ที่เครื่องยนต์ใต้ท้องรถไฟได้รับความเสียหาย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
จากการสอบถามพนักงานขับรถไฟทราบว่า รถไฟขบวนที่ 416 ดังกล่าวมี 4 โบกี้ รับผู้โดยสารต้นทางมาจากสถานีรถไฟอุดรธานี เพื่อมาส่งปลายทางที่สถานีรถไฟนครราชสีมา รวมผู้โดยสารเต็มทุกโบกี้กว่า 240 คน ก่อนเกิดเหตุรถไฟได้แวะจอดรับส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟมะค่า อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา จากนั้นได้ออกเดินรถมาได้ประมาณ 1 กม. อยู่ระหว่างสถานีดงพลอง อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ก็เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นที่ห้องเครื่องยนต์ใต้ท้องรถ และเกิดกลุ่มควันขึ้นจำนวนมาก คนขับจึงจอดขบวนรถไฟและใช้อุปกรณ์ดับเพลิงฉีดดับเพลิงไว้ได้
ขณะที่ผู้โดยสารเห็นกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก จึงคว้ากระเป๋า สัมภาระต่างๆ กระโดดวิ่งหนีตายออกมาจากโบกี้รถไฟกันอย่างโกลาหลจนเกิดความชุลมุนขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ใช้เวลาไม่นานก็สามารถดับเพลิงไว้ได้ หัวรถจักรเสียหายจากสายไฟที่ถูกไฟไหม้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้โดยสารที่วิ่งหนีลงจากขบวนรถไฟกลับขึ้นมาใหม่และออกเดินทางมาถึงสถานีรถไฟนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ด้วยความปลอดภัย แต่ล่าช้ากว่าเวลาที่กำหนดประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนส่งหัวรถจักรขบวนดังกล่าวเข้าศูนย์ซ่อมบำรุง
เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุเกิดจากระบบเครื่องยนต์ที่ถูกใช้งานมานานและสายไฟเก่า ประกอบกับมีน้ำมันรั่วซึม ขณะรถวิ่งอาจมีประกายไฟจึงทำให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้น
“สำหรับขบวนรถไฟที่จะใช้เดินทางขากลับไปยัง จ.อุดรธานีได้เปลี่ยนขบวนรถไฟสำรองมาให้บริการแทนแล้ว และเจ้าหน้าที่ได้เช็กระบบความปลอดภัยทั้งหมดก่อนให้บริการประชาชน ยืนยันว่าขณะนี้รถไฟในเส้นทางนครราชสีมา-อุดรธานี สามารถเดินรถได้ตามปกติแล้ว” นายสมศักดิ์กล่าวในตอนท้าย