พระนครศรีอยุธยา - ผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา เตรียมนำน้ำจากแก้มลิง และน้ำจากบ่อทราย และบ่อดินกว่า 30 บ่อ ช่วยเหลือชาวนาที่กำลังได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง รวมถึงน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค
วันนี้ (20 ก.ค.) นายอภิชาติ โดดิลกเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะที่ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ชะลอการสูบน้ำตามนโยบายของรัฐบาลแล้ว และขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่นาที่ปลูกข้าวแล้วกว่า 400,000 ไร่ ขณะเดียวกัน มีชาวนาบางส่วนที่ปลูกข้าวทั้งใน และนอกชลประทานตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และกำลังตั้งท้องกว่า 100,000 ไร่ ซึ่งภาครัฐจะได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือเป็นลำดับแรก รวมถึงน้ำอุปโภคบริโภคด้วย
ส่วนน้ำเพื่อการเกษตรอยู่ระหว่างการจัดลำดับให้ความช่วยเหลือ โดยจะบริหารจัดการให้ดีที่สุดและมากที่สุด โดยจะนำน้ำจากแก้มลิงทุ่งนเรเศวร และทุ่งมะขามหย่องเกือบ 4 ล้านลูกบาศก์เมตร และน้ำจากบ่อดิน บ่อทรายอีก 33 บ่อ ซึ่งผ่านการตรวจคุณภาพน้ำจากกรมพัฒนาที่ดินเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะมีน้ำ 1-5 ล้านลูกบาศก์เมตรเข้าไปช่วยเหลือ
“กรณีน้ำการเกษตรเราได้รับการอนุญาตจากกรมชลประทานคือ น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค เรามีแม่น้ำน้อย 4 ประตู ซึ่งจะส่งผลถึงเรื่องน้ำประปาก็จะมีที่ผักไห่ ประปาของหมู่บ้าน เราขอน้ำเพิ่ม กรมชลประทานให้น้ำเพื่อการเกษตรต้องรอนโยบายรัฐบาล ต้องรอ 2-3 วัน โดยวันพรุ่งนี้ (21 ก.ค.) น่าจะทราบผล จึงขอยืนยันต่อเกษตรกรว่า เราจะช่วยเหลือให้ดีที่สุด โดยเฉพาะประตูระบายน้ำผักไห่ จะมีน้ำทะเลขึ้นลง ดังนั้น เมื่อน้ำทะเลหนุนสามารถใช้น้ำในส่วนนี้ได้วันละ 5 ชั่วโมง” ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าว
นายอภิชาติ โดดิลกเวชช์ กล่าวย้ำว่า การแก้ปัญหาให้เกษตรกรแต่ละพื้นที่จะไม่เหมือนกันทั้งหมด เนื่องจากน้ำมาจากแต่ละลุ่มน้ำ ดังนั้น จึงมอบหมายให้นายอำเภอ เป็นผู้จัดการพื้นที่ ร่วมทำงานกับคณะทำงานโครงการชลประทาน เกษตรจังหวัด และหน่วยทหาร เพื่อให้ความช่วยเหลือชาวนาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
