ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “เขื่อนลำตะคอง” น้ำลดฮวบต่อเนื่อง ล่าสุดเหลือน้ำใช้การแค่ 15% แจ้งเตือนการประปาท้องถิ่น 5 อำเภอเร่งสูบน้ำจากฝนตกไม่ต้องรอพึ่งเขื่อนเพราะมีน้ำน้อย ล่าสุดเขื่อนส่งน้ำช่วยทหาร ทภ.2 ทั้งค่ายสุรนารี-สุรธรรม ส่วนโรงไฟฟ้าสูบกลับ กฟผ.ใช้น้ำได้แค่ 10% หากเหลือ 30 ล้าน ลบ.ม.ต้องหยุดผลิตไฟฟ้าทันที ขณะชาวนาเพาะปลูกไปแล้วให้รอฝนอย่างเดียว
วันนี้ (20 ก.ค.) นายสิทธิโรจน์ กองแก้ว ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตรขนาดใหญ่ที่สุดของ จ.นครราชสีมาว่า ล่าสุดมีปริมาณน้ำในอ่าง 72 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) แต่เป็นน้ำใช้การได้จริงแค่ 49.8 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 15.8 ของขนาดความจุระดับกักเก็บ 314 ล้าน ลบ.ม. และระดับน้ำยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง
ขณะนี้ทางโครงการฯ ได้ประกาศแจ้งเตือนไปยังการประปาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ใต้เขื่อน 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.สีคิ้ว สูงเนิน ขามทะเลสอ เมืองนครราชสีมา และ อ.เฉลิมพระเกียรติ ให้ทำการเร่งสูบน้ำจากฝนที่ตกลงมาเข้าไปเก็บในอ่างน้ำดิบสำหรับผลิตประปาในช่วงนี้ เนื่องจากช่วงปลายสัปดาห์นี้จะเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง ส่วนเขื่อนลำตะคองปริมาณน้ำลดลงอย่างต่อเนื่องเพราะไม่มีฝนตกเหนือเขื่อน
โดยขณะนี้ทางโครงการฯ ได้งดการปล่อยน้ำเพื่อการเกษตรโดยสิ้นเชิงไปแล้ว เพียงแต่ระบายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและหล่อเลี้ยงระบบนิเวศวันละ 400,000 ลบ.ม. ส่วนปริมาณการสูบน้ำจากเขื่อนลำตะคองเพื่อการผลิตประปา ประกอบด้วย เทศบาลนครราชสีมา 46,776 ลบ.ม./วัน, เรือนจำคลองไผ่ อ.สีคิ้ว 3,000 ลบ.ม./วัน, เทศบาลตำบลคลองไผ่ 1,361 ลบ.ม./วัน, ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 จำนวน 4,000 ลบ.ม./วัน และค่ายสุรธรรมพิทักษ์ กองทัพภาคที่ 2 จำนวน 6,000 ลบ.ม./วัน
นายสิทธิโรจน์กล่าวอีกว่า สำหรับเกณฑ์การสูบน้ำจากเขื่อนลำตะคองของโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา ซึ่งโรงไฟฟ้าแบบสูบกลับของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 1. กรณีน้ำในเขื่อนลำตะคองมีมากกว่า 100 ล้าน ลบ.ม. สามารถสูบน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้าได้ตามปกติ 2. กรณีน้ำในเขื่อนลำตะคองน้อยกว่า 100 ล้าน ลบ.ม. สูบน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้าได้ไม่เกิน 10% ของน้ำในเขื่อนลำตะคอง ณ วันนั้นๆ และ 3. กรณีน้ำในเขื่อนลำตะคองมีน้อยกว่า 30 ล้าน ลบ.ม. ต้องหยุดการสูบน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้าทันที
ส่วนมาตรการจัดการน้ำเพื่อการเกษตรในภาวะฝนทิ้งช่วง 1-31 ก.ค. 2558 นั้น พื้นที่ที่มีการเพาะปลูกไปแล้วขอให้เกษตรกรที่เพาะปลูกหว่านแห้งไปแล้วให้ใช้น้ำฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ เนื่องจากเขื่อนลำตะคองยังไม่มีน้ำเพียงพอที่จะช่วยเหลือได้ในขณะนี้ และหากมีน้ำไหลหลากเนื่องจากฝนตกในพื้นที่ให้ใช้น้ำหลากดังกล่าว