ทหารชัยนาทตรวจคลองชลประทานขอชาวนาหยุดสูบน้ำ เจอชาวนาโวยใส่ขอความเห็นใจฝากไปถึงรัฐบาล

ชัยนาท - ผบ.ควบคุมชุดประสานงานประจำพื้นที่ชุดที่ 10 ชัยนาท นำกำลังทหารลงพื้นที่ตรวจคลองชลประทาน ชัยนาท-ป่าสัก ที่มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำของชาวนา เพื่อขอความร่วมมือไม่ให้สูบน้ำเข้าพื้นที่การเกษตร ตามนโยบายของรัฐบาล

วันนี้ (17 ก.ค.) ร.ท.สุชาติ ผลโต ผบ.ควบคุมชุดประสานงานประจำพื้นที่ ชุดที่ 10 จังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งการจาก ผบ.บก.ควบคุม มทบ.13 ในการให้ความร่วมมือชลประทานควบคุมดูแล และขอความร่วมมือชาวนาหยุดสูบน้ำจากคลองชัยนาท-ป่าสัก ตั้งแต่ปากคลองที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามโนรมย์ อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท จนถึงสะพานเบี่ยงเขตติดต่อ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร

โดยมีการออกตรวจทั้งกลางวัน กลางคืน ช่วงเช้าตั้งแต่ 06.00-12.00 น. ช่วงบ่ายตั้งแต่ 14.00-17.00 น.กลางคืนเริ่ม 20.00-23.00 น. และ 02.00-05.00 น. หากพบการสูบน้ำของเกษตรกรจะขอความร่วมมือไม่ให้สูบน้ำ และหากเกษตรกรร้องเรียน หรือขอความช่วยเหลือจะรวบรวมข้อมูลรายงานขึ้นไปทาง บก.ควบคุม มทบ.13 เพื่อดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาตามนโยบายรัฐบาลต่อไป

โดยขณะที่ได้ทำการตรวจริมคลองชัยนาท-ป่าสัก บริเวณ ต.เสือโฮก อ.เมืองชัยนาท ได้พบกับชาวนากลุ่มหนึ่งที่แม้จะยอมปฏิบัติตามที่ทหารร้องขอไม่ให้สูบน้ำ แต่ก็มีเสียงสะท้อนฝากไปถึงรัฐบาลว่า หากไม่ให้ชาวนาสูบน้ำแล้วความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการลงทุนทำนาไร่ละ 5,000-6,000 บาทไปแล้วใครจะรับผิดชอบ หากรัฐบาลจะชดเชยให้ไร่ละ 1,000 บาทก็ไม่คุ้มกัน จึงวอนขอความเห็นใจจากทหารขอให้พวกตนสูบน้ำต่ออีก 15 วัน เพราะข้าวที่ปลูกไว้กำลังออกรวงแล้ว กลัวว่าหากช่วงนี้ข้าวขาดน้ำจะทำให้เสียหายทั้งหมดจนไม่เหลือให้เก็บเกี่ยวไปขาย

ขณะที่ชาวนาบางคนรู้สึกคับแค้นใจที่รัฐบาลไม่ให้สูบน้ำทำนา ทั้งที่เห็นน้ำไหลผ่านหน้าที่นาของตน แต่สูบน้ำไปใช้ไม่ได้ จึงระบายความอัดอั้นตันใจให้ทหารฟัง ซ้ำยังต่อว่าทหารว่าใช้อำนาจเกินไป ควรมีการลดหย่อนกันบ้าง แค่ขอให้พวกตนสูบน้ำต่อไปได้ถึงสิ้นเดือนนี้ ให้ข้าวที่ปลูกไว้ครั้งนี้รอดตายก่อนเพราะลงทุนไปมากแล้ว หากครั้งนี้สามารถเก็บเกี่ยวขายได้ก็จะไม่ทำนา หรือสูบน้ำอีกตามที่รัฐบาลร้องขอ