ตาก - ผอ.เขื่อนภูมิพลยันความปลอดภัยของเขื่อนฯ แม้จะมีเหตุแผ่นดินไหวในรอบ 10 วันเกิดขึ้นถึง 2 ครั้ง และยังอยู่ในรัศมีของจังหวัดตาก แม้ครั้งหลังสุดจะห่างจากเขื่อนเพียง 44 กม. ส่วนระดับน้ำยังมีปริมาณไหลเข้าเขื่อนในระดับต่ำ
นายณัฐวุฒิ แจ่มแจ้ง ผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์การเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่จังหวัดตาก โดยศูนย์กลางอยู่ใกล้กับเขื่อนภูมิพล ในรอบ 10 วันเกิดขึ้นถึง 2 ครั้งติดต่อกัน โดยล่าสุดวานนี้ (12 ก.ค.) เวลา 14.04 น. เกิดแผ่นดินไหวที่อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก มีจุดศูนย์กลางที่บริเวณสันเขาบ้านห้วยดินหม้อ ห้วยกระทิง ห้วยสินา ฝั่งขวาของลำน้ำแม่ตื่น ต.แม่ตื่น อ.แม่ระมาด จ.ตาก ห่างจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น 4 กิโลเมตร วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 3.6 ริกเตอร์ ลึกลงไปใต้พื้นดินประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ห่างจากเขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ประมาณ 44 กิโลเมตร รัศมีการสั่นสะเทือนรับรู้ประมาณ 50 กิโลเมตร ไม่มีรายงานความเสียหาย
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2558 เวลา 14.27 น. เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.8 ริกเตอร์ บริเวณตำบลบ้านนา อ.สามเงา จ.ตาก บริเวณ Lat 17.75 Long 98.58 ที่ความลึกประมาณ 4 กิโลเมตร ห่างจากสันเขื่อนภูมิพลประมาณ 70 กิโลเมตร ประชาชนในพื้นที่สามารถรู้สึกได้เพียงเล็กน้อย และไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด
นายณัฐวุฒิ ผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ทันทีที่มีรายงานเหตุการณ์แผ่นดินไหว ทางเขื่อนภูมิพลได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด มีการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อนในจุดทดสอบต่างๆ รอบฐานเขื่อน และตัวเขื่อนทั้งหมด ซึ่งมีทั้งระบบดิจิตอลคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย และระบบแอนะล็อก มาตรวัดต่างๆ ซึ่งล่าสุดจนกระทั่งขณะนี้ไม่พบความผิดปกติ หรือมีสัญญาณอันตรายใดๆ จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว
“โดยขณะเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว เครื่องตรวจวัดที่ตัวสันเขื่อนภูมิพลสามารถตรวจวัดรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้เพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เพื่อความสบายใจ และไม่ประมาท ทางเขื่อนภูมิพล และทุกๆ โรงไฟฟ้าพลังน้ำในทุกเขื่อนทั่วประเทศมีเจ้าหน้าที่ประจำห้องควบคุมติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด ยืนยันได้ว่าทุกเขื่อนมีความมั่นคงแข็งแรง และยังสามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ โดยเฉพาะ เขื่อนภูมิพล ซึ่งเป็นเขื่อนคอนกรีตที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” นายณัฐวุฒิกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีรายงานถึงปริมาณน้ำที่ไหลเข้าสู่เขื่อนฯ ว่า วานนี้มีน้ำใหม่ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล จำนวน 2.16 ล้านลูกบาศก์เมตร มีปริมาณน้ำกักเก็บคงเหลือ 3,959 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 29.41 เปอร์เซ็นต์ มีปริมาณน้ำที่สามารถระบายได้เพียง 159 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 1.65 เปอร์เซ็นต์ โดยทำการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อนวันละ 8 ล้านลูกบาศก์เมตร
ส่วนเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำกักเก็บคงเหลือ 3,179 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 33.44 เปอร์เซ็นต์ มีปริมาณน้ำที่สามารถระบายได้เพียง 329 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 4.95 เปอร์เซ็นต์ โดยทำการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อนวันละ 17 ล้าน ลบ.ม.วานนี้มีน้ำใหม่ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำจำนวน 7.30 ล้านลูกบาศก์เมตร