“นศ.แพทย์สาว” ซิ่งวีออสชน “รองสารวัตร” ตร.ทางหลวงดับบน ถ.มิตรภาพ สีคิ้ว

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - นักศึกษาแพทย์สาววัย 24 ปี ซิ่งรถเก๋งวีออสจากกรุงเทพฯ พร้อมเพื่อน 4 คนเข้าตัวเมืองโคราช ตกใจรถบรรทุกเบรกกะทันหันหักหลบพุ่งชน “รองสารวัตร” ตำรวจทางหลวง ขณะตั้งด่านตรวจใต้สะพานกลับรถ ถ.มิตรภาพ สีคิ้ว เสียชีวิต ถูกควบคุมตัวดำเนินคดีข้อหาหนักขับรถประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.จักรพันธ์ มากสี พนักงานสอบสวน สภ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุรถยนต์เก๋งชนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บสาหัสในระหว่างกำลังปฏิบัติหน้าที่ตั้งด่านตรวจบริเวณใต้สะพานกลับรถ หลักกิโลเมตร (กม.) ที่ 105-106 ถนนมิตรภาพ ต.สีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ฝั่งขาเข้าตัวเมืองนครราชสีมา จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิพรหมธรรมสีคิ้ว

ในที่เกิดเหตุพบกลุ่มเจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันปั๊มหัวใจให้ ร.ต.ท.สุนทร เบือดขุนทด อายุ 56 ปี รอง สว.(ป) สทล.1 กก.6 บก.ทล. หัวหน้าหน่วยสูงเนิน จ.นครราชสีมา ก่อนให้หน่วยกู้ภัยรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลสีคิ้ว ในบริเวณเดียวกันพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า วีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน ศว 6749 กรุงเทพมหานคร มี น.ส.สุรพา ตั้งภัคกุล อายุ 24 ปี นักศึกษาแพทย์ ปี 6 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เป็นคนขับพร้อมเพื่อนอีก 4 คนนั่งมาในรถ สภาพด้านหน้ารถเสียหายชนเข้าที่ท้ายรถปิกอัพ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ฒย 2367 กรุงเทพมหานคร ที่มี นายประวิช สาระคำ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 232 หมู่ 13 ต.มุ่งแก้ว อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวไปสอบสวนที่ สภ.สีคิ้ว

น.ส.สุรพา อายุ 24 ปี นักศึกษาแพทย์ ปี 6 อยู่บ้านเลขที่ 456/147 ถ.เพชรบุรี แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเวที กรุงเทพฯ คนขับรถยนต์เก๋งโตโยต้า วีออส สีดำ ให้การว่า ขับรถจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนครราชสีมา โดยมีเพื่อนนั่งมาด้วย 4 คน ถึงที่เกิดเหตุรถบรรทุกที่วิ่งนำหน้าเกิดเบรกกะทันหัน ตนตกใจจึงหักหลบออกเลนขวามือ โดยไม่ทราบว่ามีตำรวจตั้งด่านตรวจอยู่ รถจึงพุ่งเฉี่ยวชน ร.ต.ท.สุนทร แล้วเสียหลักพุ่งชนท้ายรถปิกอัพคันดังกล่าว

ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสีคิ้วแจ้งว่า ร.ต.ท.สุนทรทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตแล้ว หลังแพทย์พยาบาลได้พยายามช่วยเหลือยื้อชีวิตอย่างเต็มที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา น.ส.สุรพาว่า “ขับรถโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต” พร้อมควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป