กาฬสินธุ์ - ตำรวจกาฬสินธุ์เร่งล่าไอ้หื่นหลังก่อเหตุกลางวันแสกๆ หลอกเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 ในอำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ มีดจี้บังคับพาเข้าป่าหวังขืนใจ สุดท้ายเด็กสู้สุดชีวิตหนีรอด แต่ถูกทำร้ายร่างกายอาการสาหัส
วันนี้ (11 ก.ค. 58) พ.ต.อ.ประสิทธิ์ จำปาทุม ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ สั่งการให้ พ.ต.ท.พัฒน์ พูราษฏร์ รอง ผกก.สส.สภ.กุฉินารายณ์ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่สอบถามพยานแวดล้อมและหาหลักฐานเพิ่มเติมบนถนนไปทุ่งนาติดกับป่าหนองโจด บริเวณหลังวัดบ้านหนองโจด ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์
หลังมีคนร้ายหลอกจี้บังคับพาเด็กอายุ 13 ปี นักเรียนหญิงชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ หวังข่มขืน แต่เด็กต่อสู้จนถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนที่จะหนีออกมาได้ โดยเหตุเกิดกลางวันแสกๆ เวลา 08.30 น. เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอาการปลอดภัยแล้ว
นายที (นามสมมติ) อายุ 40 ปี พ่อของนักเรียนชั้น ม.2 กล่าวว่า ลูกสาวอาศัยอยู่กับตา ส่วนตนและภรรยาทำงานอยู่ต่างจังหวัด ก่อนเกิดเหตุลูกสาวได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปสอบที่โรงเรียนเวลาประมาณ 08.00 น. กระทั่งพบชายอายุประมาณ 30 ปี สวมกางเกงกีฬาขาสั้นสีแดง สวมเสื้อยืดลายทหาร ยืนโบกรถอยู่ข้างโรงเรียน โดยหลอกว่ารถจักรจานยนต์น้ำมันหมด ขอให้ลูกสาวพาไปซื้อน้ำมัน ด้วยความไร้เดียงสาลูกสาวจึงให้ซ้อนท้ายพาไป
จากนั้นคนร้ายได้ใช้มีดจี้บังคับให้ขี่รถเข้าไปบริเวณป่าหลังวัดป่าบ้านหนองโจด คาดว่าเจตนาหวังจะขืนใจ แต่ลูกสาวฮึดสู้จนถูกคนร้ายทำร้ายร่างกาย ทั้งต่อยท้อง บีบคอ และชกใบหน้าจนบวมปูดและสลบอาการสาหัส กระทั่งมีเพื่อนนักเรียนโทรศัพท์เข้าไปหาลูกสาวจึงรู้สึกตัว และมีคนแจ้งตำรวจ คนร้ายตกใจจึงวิ่งไปขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปโดยที่ยังไม่ได้ลงมือข่มขืน
นายทีกล่าวอีกว่า ขณะนี้ลูกสาวอาการปลอดภัยแล้ว โดยแพทย์เอกซเรย์ศีรษะไม่พบการกระทบกระเทือน มีเพียงใบหน้า ปาก และตาบวม ซึ่งยังไม่สามารถพูดได้ชัดมากเท่าที่ควร อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี และฝากสื่อมวลชนเผยแพร่ข่าวสารฝากเตือนไปยังผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ซึ่งกรณีของลูกสาวถือว่าโชคดีที่ไม่ถูกข่มขืนและถูกทำร้ายจนเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้กระจายกำลังลงพื้นที่หาข่าวและพลิกแผ่นดินไล่ล่าติดตามคนร้ายแล้ว คาดว่าน่าจะได้เบาะแสและสามารถติดตามตัวคนร้ายได้ในเร็วๆ นี้
วันนี้ (11 ก.ค. 58) พ.ต.อ.ประสิทธิ์ จำปาทุม ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ สั่งการให้ พ.ต.ท.พัฒน์ พูราษฏร์ รอง ผกก.สส.สภ.กุฉินารายณ์ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่สอบถามพยานแวดล้อมและหาหลักฐานเพิ่มเติมบนถนนไปทุ่งนาติดกับป่าหนองโจด บริเวณหลังวัดบ้านหนองโจด ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์
หลังมีคนร้ายหลอกจี้บังคับพาเด็กอายุ 13 ปี นักเรียนหญิงชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ หวังข่มขืน แต่เด็กต่อสู้จนถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนที่จะหนีออกมาได้ โดยเหตุเกิดกลางวันแสกๆ เวลา 08.30 น. เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอาการปลอดภัยแล้ว
นายที (นามสมมติ) อายุ 40 ปี พ่อของนักเรียนชั้น ม.2 กล่าวว่า ลูกสาวอาศัยอยู่กับตา ส่วนตนและภรรยาทำงานอยู่ต่างจังหวัด ก่อนเกิดเหตุลูกสาวได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปสอบที่โรงเรียนเวลาประมาณ 08.00 น. กระทั่งพบชายอายุประมาณ 30 ปี สวมกางเกงกีฬาขาสั้นสีแดง สวมเสื้อยืดลายทหาร ยืนโบกรถอยู่ข้างโรงเรียน โดยหลอกว่ารถจักรจานยนต์น้ำมันหมด ขอให้ลูกสาวพาไปซื้อน้ำมัน ด้วยความไร้เดียงสาลูกสาวจึงให้ซ้อนท้ายพาไป
จากนั้นคนร้ายได้ใช้มีดจี้บังคับให้ขี่รถเข้าไปบริเวณป่าหลังวัดป่าบ้านหนองโจด คาดว่าเจตนาหวังจะขืนใจ แต่ลูกสาวฮึดสู้จนถูกคนร้ายทำร้ายร่างกาย ทั้งต่อยท้อง บีบคอ และชกใบหน้าจนบวมปูดและสลบอาการสาหัส กระทั่งมีเพื่อนนักเรียนโทรศัพท์เข้าไปหาลูกสาวจึงรู้สึกตัว และมีคนแจ้งตำรวจ คนร้ายตกใจจึงวิ่งไปขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปโดยที่ยังไม่ได้ลงมือข่มขืน
นายทีกล่าวอีกว่า ขณะนี้ลูกสาวอาการปลอดภัยแล้ว โดยแพทย์เอกซเรย์ศีรษะไม่พบการกระทบกระเทือน มีเพียงใบหน้า ปาก และตาบวม ซึ่งยังไม่สามารถพูดได้ชัดมากเท่าที่ควร อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี และฝากสื่อมวลชนเผยแพร่ข่าวสารฝากเตือนไปยังผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ซึ่งกรณีของลูกสาวถือว่าโชคดีที่ไม่ถูกข่มขืนและถูกทำร้ายจนเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้กระจายกำลังลงพื้นที่หาข่าวและพลิกแผ่นดินไล่ล่าติดตามคนร้ายแล้ว คาดว่าน่าจะได้เบาะแสและสามารถติดตามตัวคนร้ายได้ในเร็วๆ นี้