คนร้ายลักเงินจากโรงงานขายน้ำแข็งกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้

จันทบุรี - คนร้ายก่อเหตุลักเงินในกระป๋องจากการขายน้ำแข็งมาแล้วหลายครั้ง หลังเปิดกล้องวงจรปิดพบคนร้ายเป็นเพื่อนสนิทของเจ้าของโรงน้ำแข็ง ขณะที่ลูกชายเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

วันนี้ (10 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ได้รับแจ้งว่าจาก นายจิรภัทร รัตนสัจธรรม อายุ 21 ปี ว่า มีเหตุคนร้ายได้เข้ามาลักทรัพย์สินเป็นเงินที่ใส่ไว้ในกระป๋องภายโรงน้ำแข็ง เลขที่ 941/3 ถนนท่าแฉลบ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายในการก่อเหตุไว้ได้ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจสอบด้วย และจับคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย

หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ได้ลงพื้นที่ พบ นายจิรภัทร เจ้าของโรงน้ำแข็งยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ จากนั้น นายจิรภัทร ได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูกระป๋องใส่เงินที่แขวนอยู่ภายในโรงน้ำแข็ง และถูกคนร้ายลักทรัพย์ไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดู ตรวจสอบพบว่า เงินที่ใส่ไว้ในกระป๋องถูกคนร้ายก่อเหตุไปแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง ได้เงินไปหลายพันบาท ทำให้นายจิรภัทร เจ้าของร้านต้องมีการติดกล้องวงจรปิดเพื่อต้องการรู้ตัวคนร้ายว่าเป็นใคร

เมื่อติดกล้องวงจรปิดได้ไม่กี่วันคนร้ายก็ได้เผยโฉมหน้าออกมาในการเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์เงินที่ใส่ไว้ในกระป๋องเป็นครั้งที่ 6 ทำให้กล้องวงจรปิดที่ได้ติดตั้งไว้สามารถจับภาพคนร้ายที่ก่อเหตุไว้ได้ โดยคนร้ายที่ก่อเหตุที่แท้เป็นเพื่อนสนิทของพ่อเจ้าของโรงน้ำแข็ง ทราบชื่อ คือ นายโย่ง ที่ทำทีเข้านั่งคุยภายในโรงน้ำแข็งก่อนที่จะฉวยโอกาสที่คนงานในร้านเผลอ และหยิบเงินในกระป๋องใส่เงินที่แขวนไว้ไปจนหมด ก่อนที่จะมานั่งคุยต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งนี้ นายจิรภัทร ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐานแล้ว ซึ่งในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามตัว นายโย่ง คนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายจิรภัทร รัตนสัจธรรม เจ้าของโรงน้ำแข็ง กล่าวว่า ตนเองได้รู้ว่ามีเงินหายมานานแล้ว แต่ไม่มีหลักฐานว่าคนที่ก่อเหตุเป็นใครก็เลยติดกล้องวงจรปิดก็เพื่อต้องการหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ ตอนแรกก็สงสัยคนงานในร้านแต่ก็ยังไม่แน่ชัด เมื่อติดกล้องวงจรปิดก็เข้าทางตนเอง เพราะคนร้ายได้มาก่อเหตุซ้ำจึงได้รู้ว่าคนร้ายที่แท้เป็นเพื่อนสนิทของพ่อ โดยจะเข้ามาที่โรงน้ำแข็งประจำเข้ามากินข้าวบ้าง เข้ามาคุยบ้าง ซึ่งตนเองจะต้องมีการดำเนินคดีต่อคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้อย่างแน่นอน