ราชบุรี - พบครอบครัวสุดรันทดที่อำเภอดำเนินสะดวก ต้องอาศัยอยู่ในบ้านที่มีสภาพผุพังแทบกันลมกันฝนไม่ได้ทั้งหมด 5 คน โดยมีแม่ที่เข้าวัยชรา และลูกสะใภ้พิการเป็นโปลิโอ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลัก รับจ้างเก็บมะนาวประทังชีวิตเลี้ยงดูลูกชายที่มือไม้อ่อนแรง และหลานกำลังเรียนอีก 2 คน วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ
วันนี้ (8 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายภิญโญ เรืองชัยนุสรณ์ กำนัน ต.ประสาทสิทธิ์ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ว่า พบครอบครัวรันทดฐานะยากจน ต้องอาศัยอยู่กันอย่างแออัดบนบ้านไม้ขัดแตะหลังเล็กๆ ที่มีสภาพผุพังแทบกันลมกันฝนไม่ได้ มีแม่เข้าวัยชรา และลูกสะใภ้พิการเป็นโปลิโอ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักรับจ้างเก็บมะนาวประทังชีวิตเลี้ยงดูลูกชายที่มือไม้อ่อนแรง และหลานกำลังเรียนอีก 2 คน แถมบ้านที่อาศัยยังติดจำนองโฉนด รายได้ไม่พอต้องกู้เงินรายวันมาเลี้ยงชีพ โดยทั้งหมดอยู่ที่บ้านเลขที่ 257 หมู่ 2 ต.ประสาทสิทธิ์ อ.ดำเนินสะดวก
เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบพบกับสภาพบ้านเก่าๆ ที่ทั้งเสา และฝาบ้านที่เป็นไม้ขัดแตะอยู่ในสภาพผุพังจนเป็นร่องแทบไม่สามารถกันอะไรได้มากนัก และพบกับ นางมณฑา แซ่ลิ้ม อายุ 58 ปี เจ้าของบ้าน
ทั้งนี้ นางมณฑา แซ่ลิ้ม เผยถึงชีวิตแสนรันทดว่า ตนอาศัยอยู่บนบ้านไม้หลังนี้เพราะไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ทั้งที่ที่ดินติดจำนองเขาอยู่ เนื่องจากลูกสาวได้นำที่ดินไปจำนองเขาไว้แล้วไม่มีเงินไถ่คืนก็ต้องอาศัยอยู่กับ นายประจวบ ไซสง อายุ 35 ปี ลูกชายที่ไม่สามารถทำงานหนักได้ เพราะประสบอุบัติเหตุไปรับจ้างเก็บมะพร้าวแล้วถูกไฟฟ้าแรงสูงช็อตกลงมา แล้วยังมาประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์คว่ำอีกเมื่อประมาณ 6 ปีก่อน จนกระดูกไหปลาร้าหัก ทำให้มือทั้งสองข้างอ่อนแรงไม่สามารถยกของ หรือทำงานหนักได้
นอกจากนี้ ยังต้องเลี้ยงดูหลานอีก 2 คนคือ ด.ช.รุ่งอรุณ ไซสง อายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.1 และ ด.ญ.ลัดดาวัลย์ ไซสง อายุ 11 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.5 และนางเรือง มาตรี อายุ 43 ปี ลูกสะใภ้ก็พิการเป็นโปลิโอมาตั้งแต่กำเนิดเป็นแม่ของเด็กทั้ง 2 คน ซึ่งตน และลูกสะใภ้จะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในการหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวทั้ง 5 ชีวิต ด้วยการออกไปรับจ้างเก็บมะนาวบ้าง รับจ้างทั่วไปบ้าง มีรายได้ไม่แน่นอน บางวันไม่พอจะซื้ออาหารมากิน และค่าใช้จ่ายในบ้านก็ต้องไปกู้เงินรายวันเขามาใช้ก่อน
ที่สำคัญคือ บ้านที่อยู่ทุกวันนี้ปลูกอยู่บนที่ดินของตัวเองก็จริง แต่ที่ดินยังติดจำนองเขาอยู่ ไม่มีเงินไปไถ่ถอน ตนก็อายุมากขึ้นทุกวันมักจะปวดหลังอย่างหนัก บางครั้งก็แทบไม่มีแรงออกไปรับจ้างเก็บมะนาว แต่ก็ต้องฝืนทน นอกจากนี้ ยังห่วงอนาคตของหลานทั้ง 2 คน ที่ยังเล็ก และกำลังเรียนอยู่ เวลาออกไปเรียนก็ลำบากมาก ต้องนั่งเรือออกไปจนเป็นห่วงความปลอดภัย
ด้าน นายประจวบ ไซสง อายุ 35 ปี ลูกชายของนางมณฑา กล่าวว่า หลังจากตนประสบอุบัติเหตุจนมือทั้งสองข้างอ่อนแรง ก็ไม่สามารถออกไปช่วยทำงานได้เลย ตนสงสารแม่ที่แก่ชรา และภรรยาที่พิการต้องออกไปรับจ้างหาเงินมาเลี้ยงตนเอง และลูกอีก 2 คน ตนก็ช่วยได้แค่ทำงานบ้านเท่าที่จะทำได้
“ตอนนี้ผมเป็นห่วงครอบครัวมากเพราะบ้านที่อาศัยอยู่กำลังผุพังลงทุกที ไม่รู้จะพังลงวันไหน เวลาฝนตกทีไรก็นอนกันไม่ได้ เพราะฝนสาดเข้ารอบด้าน เสาบ้านยึดกับพื้นดินก็มีเพียงต้นเดียว ผมนั้นพยายามจะออกไปทำงานทำแต่ก็ทำไม่ได้ เนื่องจากมือที่อ่อนแรงมากไม่สามารถยกของหนักๆ ได้ ตอนนี้ผมอยากจะมีรถซาเล้งเล็กๆ ออกไปหาของขาย หรือรับจ้างเล็กๆ น้อยๆ มาช่วยที่บ้านบ้าง โดยเฉพาะอยากหาเงินมาส่งลูกทั้ง 2 คนได้เรียนให้สูงที่สุดจะได้ไม่ลำบากเหมือนตนเอง และแม่ จึงอยากวอนผู้ใจบุญมาช่วยเหลือตนเอง และครอบครัวบ้าง” นายประจวบ กล่าว
สำหรับผู้ที่อยากจะช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่นางมณฑา แซ่ลิ้ม หัวหน้าครอบครัวโทรศัพท์ 08-8970-5322 หรือหมายเลขบัญชี้เลขที่ 576-2213525 ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาหลักห้า นางมณฑา แซ่ลิ้ม