ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าของตลาดแกรนด์ฮอลล์พัทยา พาพ่อค้าแม่ค้ารุมยำ ตร.กองปราบฯ ได้รับบาดเจ็บพร้อมลูกน้อง หลังบุกจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์โดยไม่โชว์บัตรประจำตัว ด้าน ผบก.ภ.จว.ชลบุรี สั่งการ ตร.ชุดสืบสวนหาข่าวเร่งติดตามตัว “เฮียจั๊ว” สอบปากคำ ลั่นดำเนินคดีต่อผู้ที่มีส่วนร่วมทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (3 ก.ค.) พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่า มีตำรวจกองปราบปรามถูกทำร้ายร่างกายภายในตลาดนัดแกรนด์ฮอลล์ ซอยบัวขาว พัทยาใต้ หมู่ 10 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จนได้รับบาดเจ็บ หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุเป็นตลาดนัดขนาดใหญ่ และมีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า 30-40 คน กำลังยืนล้อม พ.ต.ท.ขวัญพิชัย มะโนเจริญทรัพย์ รอง ผกก.หัวหน้าชุดสืบสวนปราบปรามปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการ 2 กองบังคับการกองปราบปราม ที่ยืนอยู่ในสภาพใต้ตาขวามีแผลแตกเลือดไหลอาบหน้า
นอกจากนั้น ยังพบ ร.ต.ท.ระพีพงษ์ สารตี รองหัวหน้าชุดฯ สภาพศีรษะแตกเป็นแผลฉกรรจ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจลูกชุดอีก 3 นาย และสายลับ 2 คน อยู่ในสภาพมีรอยฟกช้ำ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย โดยมีไทยมุงพากันยืนมุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก
โดยได้นำตัวตำรวจทั้งหมดขึ้นรถยนต์ ขณะที่กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าบางส่วนเข้ามาขวาง และช่วยกันโยกรถของเจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด่าทอจนเกิดเหตุชุลมุน แต่ก็สามารถนำตัวทั้งหมดส่งรักษาที่โรงพยาบาลบางละมุงได้สำเร็จ
จากการสอบสวนทราบว่า พ.ต.ท.ขวัญพิชัย มะโนเจริญทรัพย์ ได้นำกำลังเข้าจับกุมเจ้าของร้านจำหน่ายแว่นตา และนาฬิกาละเมิดลิขสิทธิ์ 3-4 ราย ภายในตลาดนัดแกรนด์ฮอลล์ แต่ระหว่างนั้น นายศุภกฤช อรรคเลิศลาภ หรือ “เฮียจั๊ว” อายุ 61 ปี เจ้าของตลาดได้เข้ามาสอบถามว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานใด พ.ต.ท.ขวัญพิชัย จึงแสดงตัวว่าเป็นตำรวจกองปราบปราม แต่ไม่ได้โชว์บัตรประจำตัว
ทำให้นายศุภกฤช โมโหใช้หมัดชกเข้าที่ใบหน้า 1 ครั้ง จนล้มคว่ำ จากนั้นกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ากว่า 10 คน ได้ช่วยกันยืนล้อมกรอบ และเปิดฉากรุมทำร้ายร่างกาย พ.ต.ท.ขวัญพิชัย และลูกน้อง จนต้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจพัทยาดังกล่าว
ต่อมา พล.ต.ต.นิติพงศ์ เนียมน้อย ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้เดินทางมาสอบปากคำ พ.ต.ท.ขวัญพิชัย ด้วยตนเอง โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงออกมาเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ว่า ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวเพื่อติดตามตัวนายศุภกฤช อรรคเลิศลาภ หรือ “เฮียจั๊ว” มาสอบสวน และจะดำเนินการจับกุมผู้ที่มีส่วนร่วมทั้งหมดตามกฎหมายต่อไป