เลย - ปลากระชังน้ำเลยน็อกตายเป็นเบือ สาเหตุจากอากาศร้อน ขาดออกซิเจน เจ้าของเร่งตักขายในราคาถูก 4 กิโลฯ 100 บาท ขณะที่ จทบ.เลยสั่งระดมกำลังพลช่วยตักปลาขึ้นจากน้ำ หวั่นเน่าเสีย เกิดโรคระบาด
เช้าวันนี้ (2 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปลากระชังที่เกษตรกรเลี้ยงไว้ในแม่น้ำเลย บ้านท่ามะนาว ต.นาอ้อ อ.เมือง จ.เลย ลอยตายจำนวนมาก สาเหตุจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งและร้อน ระดับน้ำลดต่ำลงมาก ทำให้ปลาขาดอากาศหายใจ สร้างความเสียหายให้แก่เกษตรกรเป็นอย่างมาก
นายนวลจันทร์ สถิต เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังที่ได้รับความเสียหาย กล่าวว่า ระดับน้ำในปีนี้ลดต่ำลงมากกว่าทุกปีหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสังเกตว่าปลาเริ่มมีอาการโผล่ขึ้นมาหายใจบ่อยขึ้น และมีอาการอ่อนแรงตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา พอรุ่งเช้าก็พบว่าปลาลอยตายจำนวนมาก ซึ่งปลาที่ตนเลี้ยงไว้มี 8 กระชัง อายุ 2-4 เดือนพร้อมที่จะขายแล้ว แต่เหตุที่เกิดขึ้นทำให้ต้องขาดทุนกระชังละประมาณ 10,000 บาท จึงต้องเร่งให้คนงานและลูกหลานช่วยกันตักขึ้นมาออกเร่ขายถูก 4 กิโลกรัม 100 บาท ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
ทั้งนี้ พล.ต.เถลิงศักดิ์ พูลสุวรรณ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกเลย สั่งระดมกำลังพลออกช่วยตักปลาขึ้นจากกระชังอย่างเร่งด่วน เพราะหากปล่อยไว้จะทำให้เกิดโรคระบาดและน้ำเน่าเสีย ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลนาอ้อออกสำรวจความเสียหาย ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีเกษตรกรได้รับความเดือดร้อน ปลาตาย 6 ราย รายละ 8-10 กระชัง โดยจะรายงานให้ทางอำเภอเมืองทราบ และประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ เพื่อจัดสรรงบประมาณมาช่วยเหลือเยียวยาต่อไป
ด้านนายยงยุท ชัยวรรณ เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลนาอ้อ ระบุถึงสาเหตุของปลาตายครั้งนี้ว่า แม่น้ำเลยทางด้านเหนือในพื้นที่ตำบลชัยพฤกษ์และตำบลนาอ้อ เกษตรกรจำนวนมากได้สูบน้ำขึ้นไปใส่ในที่นา เพราะข้าวที่ปักดำไว้แล้วกำลังจะแห้งตาย ประกอบกับเขื่อนยางกั้นแม่น้ำเลยที่ตำบลนาอานห่างขึ้นไปทางเหนือประมาณ 15 กิโลเมตร กักเก็บน้ำไว้ไม่ยอมปล่อยลงมา ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเลยลดลงอย่างรวดเร็ว จนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปลากระชังตายจำนวนมาก