ร้อยเอ็ด - ตัวแทนชาวบ้านลุ่มน้ำชีที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนร้อยเอ็ด เขื่อนยโสธร-พนมไพร และเขื่อนธาตุน้อย ปั่นจักรยานยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ทวงถามความคืบหน้าในการแก้ปัญหาจากการสร้างเขื่อน
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่จังหวัดร้อยเอ็ด ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนร้อยเอ็ด เขื่อนยโสธร-พนมไพร และเขื่อนธาตุน้อย ลุ่มน้ำชี จ.ร้อยเอ็ด ประมาณ 30 คน ได้ร่วมกันปั่นจักรยานเข้าไปยังศาลากลางจังหวัด เพื่อยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีนายพศิน โกมลวิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดรับหนังสือ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมากลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนในลุ่มน้ำชี จังหวัดยโสธร ได้ยื่นหนังสือในประเด็นปัญหาเดียวกันต่อนายจรรยา สุคนธ์คันธชาติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ที่ศาลากลางจังหวัดยโสธรไปแล้วเช่นกัน
นางอมรรัตน์ วิเศษหวาน ชาวบ้านดอนแก้ว ต.บึงงาม อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนในลุ่มน้ำชี กล่าวถึงการยื่นหนังสือครั้งนี้ว่า เนื่องจากปัญหาจากการสร้างเขื่อนที่อยู่ภายใต้โครงการโขง ชี มูล ได้สร้างผลกระทบต่อวิถีชีวิตชาวบ้านที่อยู่ในลุ่มน้ำชี โดยชาวบ้านได้เรียกร้องสิทธิผ่านมา 2 รัฐบาลแล้ว
ตอนนี้อยู่ในรัฐบาลที่ 3 ซึ่งการแก้ไขปัญหายังไม่มีความคืบหน้า ดังนั้นชาวบ้านลุ่มน้ำชีจึงมายื่นหนังสือเพื่อทวงสัญญากับรัฐมนตรีถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา
นายนิมิต หาระพันธ์ ชาวบ้านบุ่งหวาย ต.สงเปือย อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร กล่าวว่า พวกเราอยากถามความจริงใจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าปัญหาที่ชาวบ้านเผชิญมาจากการสร้างเขื่อนหลังจากมีการแต่งตั้งกรรมการแก้ปัญหาจากการสร้างเขื่อน ชาวบ้านก็รอว่าเมื่อไหร่จะแต่งตั้งอนุกรรมการแก้ไขปัญหา เพราะหลังจากการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการสร้างเขื่อนในลุ่มน้ำชี มติกรรมการชัดเจนว่าจะต้องแต่งตั้งอนุกรรมการแก้ไขปัญหาจากการสร้างเขื่อน 4 ชุด
“แต่กระบวนการแต่งตั้งอนุคณะกรรมการแก้ไขปัญหานั้นล่าช้ามาก ผ่านมา 4 เดือนแล้วยังไม่มีการแต่งตั้ง พวกเราจึงขอยื่นหนังสือเพื่อถามความจริงใจในการแก้ไขปัญหาจากรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ อีกครั้ง”
ขณะที่นายพศิน โกมลวิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งออกมารับหนังสือจากชาวบ้าน กล่าวว่า ตอนนี้ได้ประสานกับทางชลประทานในพื้นที่แล้ว ซึ่งทางชลประทานชี้แจงว่าต้องรอคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหา และรองบประมาณในการดำเนินการ ทันทีที่มีคำสั่งอนุกรรมการแก้ไขปัญหาสามารถดำเนินการได้ทันที
ด้านนายสิริศักดิ์ สะดวก ผู้ประสานงานศูนย์พิทักษ์สิทธิการจัดการทรัพยากรชุมชนลุ่มน้ำชีตอนล่าง ระบุว่า ประเด็นเรื่องการแก้ปัญหาจากการสร้างเขื่อนในลุ่มน้ำชี ชาวบ้านแสดงเจตนารมณ์ชัดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและแนวทางในการแก้ปัญหา เหลือเพียงหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องที่จะดำเนินการตามแนวทาง เข้าสู่รัฐบาลที่ 3 แล้วที่ตนเห็นชาวบ้านยังต้องออกมาเรียกร้องในการแก้ไขปัญหาอีก
“ปัญหาของชาวบ้านนั้นมันมีทางออก ถ้ารัฐบาลจริงใจกับการแก้ปัญหา จึงไม่ควรที่จะปล่อยให้ยืดเยื้ออย่างนี้”