บุรีรัมย์ - ตำรวจ สภ.ละหานทราย บุรีรัมย์ เรียกสอบ 5 หนุ่มกินแมวโพสต์เฟซโชว์ ชื่อ “แก๊งผู้บ่าวกินแมว” ยอมรับเห็นแมวถูกรถชนตายอยู่ริมถนนจึงนำมาประกอบอาหารรับประทาน อ้างคึกคะนองรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตำรวจไมปักใจเชื่อเตรียมลงพื้นที่สอบพยานแวดล้อมเพิ่ม หากพบทำผิดจริงจะถูกดำเนินคดีตามกม.ฐานทารุณกรรมสัตว์โทษหนัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพทางโลกออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊ก ชื่อหัวข้อ “วันนี้แก๊งผู้บ่าวกินแมวจัดว่าเด็ด” จำนวน 3 ภาพ เกี่ยวกับพฤติกรรมกลุ่มวัยรุ่น ภาพแรกเป็นภาพได้ร่วมกันนำแมวทั้งตัวที่ย่างจนไหม้เกรียมพร้อมนำมีดอีโต้ด้านคมไปวางที่ตัวแมว ภาพที่ 2 เป็นการนำแมวใส่ถาดแล้วใช้มีดแร่เนื้อแมว และอีกภาพเป็นชายกำลังนั่งตำพริก ซึ่งเหตุเกิดที่บ้านโคกว่าน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ สร้างความสะเทือนใจและวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤตกิกรรมของวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าว จนทางองค์กรภาคประชาชน Watch Dog Thailand (WDT) ได้แจ้งมายังทางตำรวจ สภ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เรียกวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวมาสอบสวนข้อเท็จจริงว่ามีการทารุณกรรมสัตว์หรือไม่
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (1 ก.ค.58) พ.ต.ท.ยงยุทธ พินิจการ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ได้เชิญตัวกลุ่มบุคคลที่โพสต์ภาพกินแมวทั้ง 5 คน มาสอบสวนหาข้อเท็จจริงว่า ได้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 หรือไม่ ซึ่งมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ซึ่งหากสอบสวนแล้วพบว่ามีการกระทำอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยทั้ง 5 คน ประกอบด้วย นายยุทธพงษ์ ดำดี อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 2 บ.โคกว่าน ต.โคกว่าน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ , นายภาสกร กองสกุล อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 208 หมู่ 9 บ.โคกว่าน ต.โคกว่าน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์, นายพนมวัน สุขต้อง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 2 บ.โคกว่าน ต.โคกว่าน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ , นายภานุพงษ์ โสมศรีแก้ว อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 9 บ.โคกว่าน ต.โคกว่าน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ และนายอภิราม แหร่มพงษา อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 127/1 หมู่ 1 บ.โคกว่าน ต.โคกว่าน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์
เบื้องต้นจากการสอบถามนายยุทธพงษ์ ยอมรับว่า ในช่วงบ่ายวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะขี่รถจักรยานยนต์ในหมู่บ้าน พบแมวตายอยู่ข้างถนนลักษณะตายใหม่ๆ มีเลือดเต็มตัวคล้ายถูกรถชน จึงจอดรถ จักรยานยนต์ลงไปหยิบซากแมวใส่ถุงปุ๋ยแล้วไปที่บ้านของนายภาสกร ซึ่งกำลังนั่งอยู่กับเพื่อนอีก 3 คน
จากนั้นจึงชักชวนกันนำแมวไปประกอบอาหารรับประทาน โดยตนกับนายภาสกรเป็นคนย่างแมว ส่วนเพื่อนอีก 3 คน ไปหาเครื่องปรุงมา ทั้งนี้ขณะนำแมวทำอาหารนายภานุพงษ์ ได้ถ่ายภาพไว้ จากนั้นนายภานุพงษ์ ได้นำภาพเหล่านั้นไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กชองตัวเอง เมื่อบ่ายวันวันที่ 30 มิ.ย. ทั้งยังอ้างว่าที่ทำลงไปเพราะความคึกคะนองและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ยืนยันว่าพวกตนทั้งหมดไม่ได้ฆ่าแมว เพียงนำซากแมวที่ตายแล้วมาทำเป็นอาหารรับประทานเท่านั้น
ต่อมาเมื่อช่วงเช้าวันที่ 1 ก.ค. ได้มีตัวแทนจากองค์กรภาคประชาชน Watch Dog Thailand (WDT) ติดต่อมาที่ สภ.ละหานทราย พร้อมส่งข้อมูลมาทางไลน์ เกี่ยวกับภาพการโพสต์เฟซบุ๊กขณะกลุ่มของนายยุทธพงษ์ ดำดี กับเพื่อนรวม 5 คน กำลังนำแมวมาประกอบอาหารรับประทาน โดยโพสต์ในหัวข้อเรื่อง “วันนี้แก๊งผู้บ่าวกินแมวจัดว่าเด็ด” จึงได้รับเรื่องไว้ทำการสอบสวนแล้วได้ให้ตำรวจสายตรวจไปเชิญตัวทั้ง 5 คน มาพบเพื่อทำการสอบสวนข้อเท็จจริง
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อสืบสวนหาสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมกับแนะนำทั้ง 5 คน ทราบเกี่ยวกับข้อกฎหมายว่า ตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 สุนัข และแมว เป็นสัตว์เลี้ยงใกล้ชิดกับคน และมีความผูกพันทางจิตใจ โดยปกติคนทั่วไปส่วนใหญ่ไม่เลี้ยงไว้เพื่อการบริโภคแต่จะเลี้ยงไว้เพื่อเป็นเพื่อน
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ซึ่งจะได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่ไปหาข้อมูลและสอบปากคำพยานแวดล้อมเพิ่มเติม หากพบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ทำร้ายและฆ่าแมวนำมาประกอบอาหารกินจริง จะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท ต่อไป