ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านเมืองพัทยาร้องพบ “พระสงฆ์” มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ขับรถตู้ออกเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านกลางวันแสกๆ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแต่กลับขับรถหลบหนี สุดท้ายหนีไม่รอดแต่ยังไม่ยอมลงจากรถ จนท.ต้องยกรถมาดำเนินคดีที่ สภ.พัทยา พบเป็นถึง “พระมหา” เปรียญธรรม 5 ประโยค
วันนี้ (24 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า พบพระสงฆ์ ประพฤติตนไม่เหมาะสมโดยการขับรถตู้ออกเรี่ยไรเงินจากประชาชน ขณะนี้ได้จอดรถนับเงินอยู่บริเวณใกล้เคียงโรงแรมรอยัลคลิฟ บีช โฮเต็ล หมู่ 12 ถนนพระตำหนัก เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงบริเวณดังกล่าว พบพระมหานิพนธ์ สุสุทโธ อุปถัมภ์พิทยา อายุ 52 ปี เปรียญธรรม 5 ประโยค อดีตพระลูกวัดวัดมหาธาตุฯ นั่งอยู่บนรถตู้ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน 6 ฝ 5526 กทม. เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเข้าไป พระมหานิพนธ์ กลับรีบขับรถยนต์ฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจหลบหนีไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับรถไล่ติดตามไปจนสามารถหยุดรถของ พระมหานิพนธ์ ได้ที่บริเวณหน้าป้อมตำรวจ ถนนพระตำหนัก พร้อมพยายามเข้าไปพูดคุย และเชิญตัวพระมหานิพนธ์ ลงมาจากรถ แต่พระมหานิพนธ์ กลับดื้อดึงไม่ยอมลงมาจากรถ จนมีชาวบ้าน และผู้สื่อข่าวเข้ามาดูเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใช้รถยก นำรถของพระมหานิพนธ์ มายัง สภ.เมืองพัทยา
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพูดไกล่เกลี่ยอีกครั้ง พระมหานิพนธ์ จึงยอมลงจากรถ ตรวจสอบภายในรถตู้คันดังกล่าวพบข้าวของเครื่องใช้จำนวนมาก แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ
จากการสอบสวน พระมหานิพนธ์ ให้การว่า เงินสดดังกล่าวได้รับมาจากการบิณฑบาตซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเงินที่ประชาชนเต็มใจทำบุญไม่ได้เรี่ยไรเงินอย่างที่ถูกกล่าวหา และพระไตรปิฎกก็ไม่ได้ห้ามให้พระสงฆ์ขับรถ ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าตนกระทำผิดอย่างไร เจ้าหน้าที่ตำรวจถึงได้จับกุมตน
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และทะเบียนรถหมดอายุ ดำเนินการเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 800 บาท ในส่วนของการกระทำอันไม่เหมาะสม และค้านสายตาประชาชนของพระมหานิพนธ์ ต้องส่งตัวให้พระเจ้าคณะตำบล เป็นผู้ตรวจสอบ และเอาผิดตามวินัยของสงฆ์ต่อไป