เชียงราย - เจ้าหน้าที่ธรณีวิทยา พร้อมการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้าพิสูจน์หาต้นเหตุพื้นบ้านชาวเมืองเทิงร้อนผิดปกติชัดเจนแล้ว เชื่อ “ไฟรั่ว” ทำอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นจนอยู่ไม่ได้ เผยก่อนหน้านี้บ้านเกิดเหตุใช้ไฟเดือนละ 774 หน่วย แต่หลัง 15 มิ.ย.มิเตอร์หมุนติ้วถึง 971 หน่วย
วันนี้ (22 มิ.ย.) นายอดุลย์ ใจบุตร ผอ.ส่วนธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรณีเขต 1 ลำปาง ได้เดินทางไปตรวจสอบสภาพพื้นห้องนอนของบ้านเลขที่ 41/2 ม.2 ต.หนองแรด อ.เทิง จ.เชียงราย ที่มีความร้อนสูงขึ้น จนทำให้นายสว่าง ศิริอาด อายุ 71 ปี เจ้าของบ้าน พร้อมครอบครัวนอนไม่ได้ ต้องไปอาศัยบ้านญาติชั่วคราวมานานหลายวันแล้ว
โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องมือตรวจสอบหากลุ่มก๊าซ และศึกษาเรื่องรอยแยก ปรากฏว่า ไม่พบสิ่งผิดปกติ ประกอบกับทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) อ.เทิง ได้เข้าตรวจสอบการติดตั้งสายไฟฟ้าภายในบ้านแล้วพบมีไฟรั่วตรงห้องน้ำใกล้กับห้องนอนที่มีความร้อนผิดปกติ จึงได้ปิดกระแสไฟเป็นการชั่วคราวตั้งแต่เย็นวันที่ 21 มิ.ย. กระทั่งอุณหภูมิลดลงจากเดิมที่สูงกว่า 58 องศาเซลเซียส เหลือเพียงประมาณ 37-39 องศาเซลเซียสเท่านั้น
จากนั้นนายอดุลย์ ใจบุตร ผอ.ส่วนธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรณีเขต 1 ลำปาง, นายสุทธิรักษ์ รักษ์เจริญ นายอำเภอเทิง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจึงได้ออกมาชี้แจงกับชาวบ้านที่พากันมาดูด้วยความสนใจ เพราะหลายคนกังวลว่าจะเป็นความผิดปกติของชั้นดิน
นายอดุลย์กล่าวว่า จากการตรวจสอบไม่พบว่าจุดที่ตั้งของบ้านอยู่บนรอยเลื่อนใดๆ จึงไม่น่าจะเป็นเรื่องรอยเลื่อน และไม่พบการมีก๊าซผิดปกติเหมือนที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อประมวลข้อมูลกับทาง กฟภ.อ.เทิง แล้วก็พบว่าเหตุความร้อนดังกล่าวน่าจะมาจากกระแสไฟฟ้าที่รั่วตรงจุดรั่ว และเนื่องจากบ้านใช้ฝ้าเพดานที่มีอะลูมิเนียม จึงทำให้กระแสไฟฟ้าส่งต่อกันมาตามโลหะจนถึงใต้กระเบื้อง โดยมีโลหะ หรือความชื้นสูง ทำให้มีขั้วลบและขั้วบวกก่อให้เกิดความร้อนระอุขึ้นดังกล่าว อีกทั้งเจ้าหน้าที่ได้ทดลองปิดกระแสไฟฟ้าก็ปรากฏว่าอุณหภูมิลดลงเรื่อยๆ ขอให้ชาวบ้านได้หายความกังวล
นายอาเขต จำปา เจ้าพน้กงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) อ.เทิง บอกว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ กฟภ.ได้ตรวจการใช้กระแสไฟฟ้าเดือนที่ผ่านมา พบว่าบ้านของนายสว่างใช้กระแสไฟฟ้าไปจำนวน 774 หน่วย แต่ช่วงตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.จนถึงปัจจุบัน ซึ่งยังไม่ครบเดือนมีการใช้ไฟฟ้าไปแล้วกว่า 971 หน่วย หรือเพิ่มมากขึ้นกว่า 197 หน่วยแล้ว ซึ่งเจ้าของบ้านต้องยอมรับว่าอาจจะต้องจ่ายค่ากระแสไฟฟ้าที่แพงกว่าเดิมโดยอาจจะมากกว่า 600 กว่าบาทขึ้นไป
พร้อมกันนั้น ทางเจ้าหน้าที่ กฟภ.อ.เทิงได้รับปากจะช่วยเหลือนายสว่างในการซ่อมแซมระบบสายไฟในบ้านทั้งหมด เพราะมีการใช้สายไฟแบบไม่มีท่อหุ้มโยงใยไปทั่วบ้าน เสี่ยงต่อการรั่ว หรือกระทบกับโลหะที่ทำให้เกิดความร้อน หรืออาจจะมีอันตรายหากไปสัมผัสโดยตรงได้ต่อไป
ด้านนายสว่างกล่าวว่า ตามปกติตนจะเสียค่ากระแสไฟฟ้าเดือนละประมาณ 200 กว่าบาท เดือนล่าสุดจ่ายไปจำนวน 222.39 บาท แต่เดือนต่อไปอาจจะต้องจ่ายมากขึ้น ซึ่งก็ต้องยอมรับกันตามนั้น และคงต้องปรับปรุงระบบไฟในบ้าน เพราะถ้าปล่อยไปเรื่อยๆ ก็อาจจะเสียหายมากกว่านี้ หรือซ้ำร้ายก็อาจจะเป็นอันตรายได้ เพียงแต่ไม่เป็นเรื่องภัยธรรมชาติ หรือชั้นดินที่เกิดการเคลื่อนตัว หรือก๊าซรั่วแบบในบางจังหวัดตนก็พอใจแล้ว