ตร.อุดรฯ รวบโจ๋ตระเวนชิงทรัพย์ร้านมินิมาร์ท อ้างหาเงินพาภรรยาฝากครรภ์

อุดรธานี - ตำรวจอุดรธานี โชว์ผลงานเด่นตามสืบรวบตัว 2 วัยรุ่นหลังก่อเหตุตระเวนชิงทรัพย์ร้านมินิมาร์ท ผู้ต้องหารับสารภาพนำเงินไปใช้จ่ายเลี้ยงดูบุตร ภรรยาที่กำลังตั้งท้องลูกคนที่ 3 พร้อมกราบขอขมาเหยื่อที่ก่อเหตุสร้างความเดือดร้อน

วันนี้ (22 มิ.ย.) พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายปรีชา ดาวสว่าง อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 13 หมู่ 7 ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี และนายกฤษฎา เจริญผล อายุ 19 ปี บ้านเลขที่ 28 ม.14 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเกตุ 2 คัน กระเป๋าของผู้เสียหาย 3 ใบ เงินเหรียญ จำนวน 5 ถุง รวมเป็นเงิน จำนวน 5,000 บาท และตั๋วจำนำจำนวนหนึ่ง ในข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดและวิ่งราวทรัพย์

พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า นายปรีชา และนายกฤษฎา ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ก่อเหตุวิ่งราวที่ร้านของชำ บ้านหนองขาม ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้เงินสดเกือบ 2 หมื่นบาท หลบหนีไป นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเข้ามาชิงทรัพย์ ในร้านจามจุรีมินิมาร์ท หน้าหมู่บ้านจามจุรี ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี คนร้ายได้เงินสด 2,000 บาท และเอกสารจำนวนมากแล้วหลบหนีไป โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกสืบสวนจนสามารถจับกุมตัวทั้ง 2 คน ได้ที่ห้องพัก ชานคารีสอร์ท ต.หนองขอนกว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี

จากการสอบสวน นายปรีชา รับสารภาพว่า เคยถูกจับกุมคดีเมาแล้วขับ เมื่อพ้นโทษออกมาก็ไม่มีงานทำไปหางานสมัครงานทำที่ไหนก็ไม่มีใครรับทำงาน ซึ่งตนมีภาระต้องเลี้ยงดูลูกเมีย โดยภรรยาคนแรกที่เลิกกันไปมีลูกด้วยกัน 1 คน แล้วตนมีภรรยาใหม่ซึ่งมีลูกติด 1 คน ซึ่งภรรยากำลังท้องมาได้ 3 เดือน ทำให้ตอนนี้มีลูกถึง 3 คนที่ต้องเลี้ยงดู โดยตนได้ไปยืมรถจักรยานยนต์คนรู้จักไปก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านจามจุรีมินิมาร์ท แต่ได้เงินไม่มากนักไม่พอที่จะพาภรรยาไปฝากครรภ์กับหมอ

จึงชักชวนนายกฤษฎา เพื่อนรุ่นน้องขับรถจักรยานยนต์ออกไปตระเวนก่อวิ่งราวทรัพย์เจ้าของร้านค้าของชำ หลังก่อเหตุจึงได้แบ่งเงินกัน โดยนายปรีชา ได้นำเงินไปเปิดห้องพักอยู่กับภรรยาและลูกๆ ตามรีสอร์ต เนื่องจากไม่มีบ้านเป็นหลักแหล่ง ถ้าจะไปอยู่บ้านภรรยาก็กลัวว่าญาติทางภรรยาจะดูถูกเอา เงินส่วนหนึ่งเก็บเอาไว้จะพาภรรยาไปฝากครรภ์ ส่วนนายกฤษฎา หลังจากได้เงินจะเอาไปใช้จ่าย และเที่ยวเตร่จนมาถูกตำรวจจับกุมได้

หลังจากแถลงข่าวเสร็จ นายปรีชา ได้เกิดสำนึกผิดจึงทำการขอขมากราบเท้า น.ส.องอร แก้วก่า เจ้าของร้านจามจุรีมินิมาร์ท ซึ่ง น.ส.องอร ได้อโหสิกรรมให้ พร้อมกันนี้ สามีผู้เสียหายได้มอบเงินจำนวน 500 บาท เพื่อให้เป็นค่านมลูกของนายปรีชาด้วย