อุบลราชธานี - เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 อุบลราชธานี ตรวจเข้มนักธุรกิจ และนักท่องเที่ยวต่างชาติและไทยที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงการระบาดของไวรัสเมอร์ส พบมีอาการเป็นไข้จะกักตัวไว้เพาะเชื้อก่อน ส่วนผู้ไม่มีอาการจะถูกติดตามดูแลสุขภาพจนพ้นระยะของการฟักเชื้อ เพื่อป้องกันไม่ให้โรคมาแพร่ระบาดในจังหวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จ.อุบลราชธานี นำเครื่องอินฟราเรดเทอโมสแกนตรวจหาผู้ต้องสงสัยที่มีอาการป่วยเป็นไข้ ซึ่งเดินทางผ่านแดนทางด่านชายแดนสากลไทย-ลาว ช่องเม็ก อ.สิรินธร โดยเพิ่มมาตรการเข้มงวดยิ่งขึ้น หลังพบมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงมีอาการป่วยจากการติดเชื้อไวรัสเมอร์สเป็นรายแรกของประเทศไทย
น.พ.ศรายุธ อุตตมางคพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสเมอร์ส ขณะนี้ จังหวัดอุบลราชธานี ยังไม่พบผู้ป่วยด้วยโรคดังกล่าว แต่มีการเข้มงวดตามจุดผ่านแดน และสนามบินนานาชาติที่มีนักท่องเที่ยวจากประเทศกลุ่มเสี่ยง เช่น เกาหลี และตะวันออกกลางเดินทางผ่านเข้ามาในจังหวัด
เมื่อพบนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือคนไทยที่เดินทางกลับประเทศที่เดินทางผ่านแดนสากลไทย-ลาว ช่องเม็ก มีอาการป่วยเป็นไข้จะกักตัวไว้ที่โรงพยาบาลประจำอำเภอสิรินธร เพื่อตรวจหาเชื้อก่อนเป็นลำดับแรก
ส่วนนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านสนามบินนาชาติ ถ้ามีอาการป่วยเป็นไข้จะให้โรงพยาบาลศูนย์สรรพสิทธิประสงค์ รับไปกักกันโรค หลังตรวจหาเชื้อไม่พบจึงปล่อยตัวผู้ป่วยที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยไป
สำหรับนักท่องเที่ยวไทย และต่างประเทศที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง จะมีการบันทึกประวัติการเดินทางไว้ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่จะติดตามไปคอยดูแลสุขภาพตลอดช่วงเวลา 14 วัน ของระยะการเพาะเชื้อ หากพ้นกำหนดไม่มีอาการป่วย ถือว่าบุคคลนั้นไม่อยู่ในข่ายที่จะมีเชื้อไว้รัสดังกล่าว ซึ่งมาตรการนี้จะถูกนำมาใช้ไปจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวดีขึ้น