อุดรธานี - ตำรวจรวบแล้วสาวใหญ่เมืองสกลนครมือสั่งฆ่าแล้วเผาที่อำเภอวังสามหมอ อุดรธานี สารภาพหน้าตาเฉย แค้นที่ผู้ตายขโมยเงินสด 1.5 ล้านบาท และพระเครื่อง “ยอดขุนพล” มูลค่าร่วม 3 แสนบาท
เมื่อเวลา 23.30 น. คืนวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม ผกก.สืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน 1 ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นางอิสยาห์ ฮัลมาชาด อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 10 บ้านห้วยเหล็กไฟ ต.นิคมน้ำอูน อ.นิคมน้ำอูน จ.สกลนคร พร้อม นายอังฆเชตร์ หรือหนุ่ย ภูบุตรตะ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 208 หมู่ 13 ต.แร่ อ.พังโคน จ.สกลนคร ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
พ.ต.อ.ณัฐนนท์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อเช้าที่ 15 มิถุนายน นายนงค์ศักดิ์ สอนนุชาติ อายุ 43 ปี ถูกพบเป็นศพถูกฆ่าแล้วเผา พร้อมรถจักรยานยนต์ในสวนยางพารา ริมถนนบ้านสมสวัสดิ์-บ้านวังทอง ต.ผาสุก อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี และบ่ายวันเดียวกัน ตำรวจสามารถจับ นายดำ ดีพรม อายุ 60 ปี ชาว จ.สกลนคร ฆาตกรขณะนอนรักษาแผลไฟไหม้บริเวณใบหน้า และแขนที่โรงพยาบาลนิคมน้ำอูน โดยรับสารภาพว่า เป็นคนฆ่าทุบหัวผู้ตาย โดยมี นางอิสยาห์ ฮัลมาชาด และนายอังฆเชตร์ ภูบุตรตะ เป็นผู้บงการ
จากการสอบสวน นางอิสยาห์ ให้การรับสารภาพอย่างไม่สะทกสะท้านว่า ได้ว่าจ้างให้นายดำ ฆ่านายนงค์ศักดิ์ และร่วมกันนำศพไปเผาจริง เพราะแค้นที่ผู้ตายได้เข้างัดบ้านขโมยเงิน 1,500,000 บาท (หนึ่งล้านห้าแสนบาท) และพระเครื่องที่สะสมไว้ในตู้เซฟไป ซึ่งก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์ ตนและลูกน้องทั้งหมดรวมถึงนายดำ ด้วยไปดูหมอลำซิ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 1 กม. ตกดึกผู้ตายได้หายไป ตนก็ไม่ได้สงสัยอะไร
จนกระทั่งหมอลำซิ่งเลิกตนกลับมาบ้านก็พบว่า บ้านถูกงัด ตู้เซฟภายในห้องนอนของตนซึ่งรหัสล็อกเซฟพังไม่สามารถล็อกได้ ตนจึงได้นำกุญแจมาล็อก และกุญแจถูกตัดเสียหาย เงินภายในตู้เซฟ 1.5 ล้านบาท และพระเครื่อง “ยอดขุนพล” กรุลพบุรี ราคา 300,000 บาท ซึ่งตนรักและหวงมากได้หายไปด้วย
นางอิสยาห์ ให้การต่อว่า ตนไม่ได้ไปแจ้งตำรวจแต่ได้สืบหาคนร้ายเอง โดยต่อมาได้สังเกตเห็นว่าผู้ตายพกเงิน และใช้เงินวันละ 3-4 หมื่นบาท และไปเที่ยวร้านอาหาร และแจกทิปนักร้องจำนวนมาก ตนจึงปักใจเชื่อว่าคนที่ลักเงิน และพระเครื่องตนไปคือ นายนงค์ศักดิ์ แน่นอน ด้วยความแค้นจึงได้วางแผนฆ่า โดยจ้างนายดำ ฆ่าผู้ตายด้วยวิธีใดก็ได้ในราคา 2 หมื่นบาท ซึ่งนายดำ ก็ตกลงรับจ้างฆ่า
วันเกิดเหตุตนได้โทรศัพท์เรียกผู้ตายมาดื่มเหล้าที่บ้าน เมื่อเผลอนายดำ ได้ใช้ท่อนไม้ทุบหัวผู้ตายหลายครั้งจนเสียชีวิต ตน และนายอังฆเชตร์ ได้ช่วยกันนำศพใส่กระโปรงหลังรถยนต์เก๋ง โตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน สอ 4438 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถของตน โดยมีตนเป็นคนขับรถนำศพไปเผาที่เขต อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี โดยแวะซื้อน้ำมันเบนซินที่ปั๊มน้ำมันใน อ.วังสามหมอ เมื่อเผาเสร็จได้กลับมาบ้าน และจ่ายเงินค่าจ้างให้นายดำไป
ส่วนนายอังฆเชตร์ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปเผาซ้ำในวันถัดมา แต่นายดำ ได้ราดน้ำมันเบนซินและจุดไฟเผารถแต่พลาดถูกไฟลวกใบหน้า และแขนจนต้องนอนโรงพยาบาล และถูกตำรวจจับได้ ส่วนตนได้ขับรถหลบหนีไปกับนายอังฆเชตร์ ไปหลบซ่อนที่ จ.หนองคาย กระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมได้
“ถึงตอนนี้ตนก็ยังไม่หายแค้นเพราะเสียดายเงิน และพระเครื่องที่ผู้ตายลักไป และตนไม่เคยคิดที่จะมอบตัว และไม่คิดหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน อยู่ในประเทศไทยก็สบายดี แม้ว่าจะต้องหลบๆ ซ่อนๆ” นางอิสยาห์ กล่าว
หลังจากนั้น ตำรวจจึงควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังสามหมอ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.ณัฐนนท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นางอิสยาห์ เคยมีสามีเป็นชาวบาร์เรน ต่อมา ได้แยกทางกันและมีสามีใหม่เป็นทหาร แต่ได้แยกทางกันอีก และมีสามีใหม่อีกคน ก่อนจะมาปักหลักทำธุรกิจปล่อยเงินกู้นอกระบบที่ อ.นิคมน้ำอูน จ.สกลนคร โดยมีนายดำ นายอังฆเชตร์ และผู้ตาย ซึ่งเป็นเพื่อนพี่ชายตนเป็นพนักงานเก็บเงินจนไว้ใจให้เดินเข้าออกในบ้านได้อย่างสบาย และรู้ว่านางอิสยาห์ เก็บเงิน และของมีค่าไว้ที่ไหน
