อุดรธานี - สาวใหญ่ถูกคนร้ายปล้นหลังชอปปิ้งที่ถนนคนเดิน หน้าศาลากลางจังหวัดอุดรธานี เผยคนร้ายบังคับขึ้นรถขอเงินแล้วพาขับรถออกไปทิ้งมัดไว้ที่ห้องน้ำ สุดท้ายถูกตำรวจตามไล่จับ จนเก๋งประสบอุบัติเหตุชนเสาไฟฟ้า
เมื่อคืนวันที่ 19 มิ.ย.58 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจาก นางอรวรรณ เชื่อคำเพ็ง ชาวจังหวัดขอนแก่น ว่า ถูกคนร้ายใช้ปืนจี้บังคับ และคนร้ายได้ขโมยรถหลบหนีไป โดยเหตุเกิดที่บริเวณถนนคนเดินหน้าศาลากลางจังหวัดอุดรธานี จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุแจ้งให้สกัดจับรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ขก 3718 ขอนแก่น
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้พบรถคันดังกล่าวขับผ่านมายังแยกบายพาสบ้านเลื่อม จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขับรถไล่ตาม กระทั่งถึงทางโค้งหลังสนามกอล์ฟหนองสำโรง รถคนร้ายขับรถมาด้วยความเร็วได้เสียหลักรถชนเข้าเสาไฟฟ้าแล้วคนร้าย 2 คน ได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในทุ่งนาข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งไล่ติดตามมาสามารถตามจับคนร้ายได้ 1 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นายกระต่าย สีวิชัย อยู่บ้านเลขที่ 62 ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี
จากนั้นได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่มูลนิธิ และอาสาสมัครทำการค้นหาคนร้ายที่ยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงนานกว่า 1 ชั่วโมง แต่ก็ไม่พบเนื่องจากพื้นที่ค่อนข้างมืดมาก ทางเจ้าหน้าที่จึงได้สลายกำลังค้นหา แล้วควบคุมตัวนายกระต่าย มาทำการสอบสวนต่อที่ สภ.เมืองอุดรธานี
นายกระต่าย ให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ทำงานที่โรงน้ำโตลาริส ทางออกหนองคาย ตนกับนายพัด ได้จี้ชิงทรัพย์จริง โดยได้เดินตามผู้เสียหายจากถนนคนเดินไปที่รถของผู้เสียหาย จากนั้นได้ฉวยโอกาสขึ้นรถแล้วใช้ปืนอัดลมที่เตรียมมาบังคับขอเงิน จำนวน 10,000 บาท จากนั้นพาผู้เสียหายไปปล่อยทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำทางออกหนองคาย และขับรถของผู้เสียหายมากระทั่งรู้ว่ามีคนตามมา จึงขับหลบหนีจนเกิดอุบัติเหตุ และถูกจับกุมได้
นางอรวรรณ เชื่อคำเพ็ง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ม.6 ตำบลในเมือง อำเภอเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น ผู้เสียหายเปิดเผยว่า ระหว่างเดินเลือกซื้อกับข้าว และของที่ถนนคนเดินแล้วเสร็จและกำลังจะกลับบ้านที่ขอนแก่น ระหว่างขึ้นรถคนร้ายได้ขึ้นรถมาที่เบาะหลังแล้วใช้อาวุธลักษณะคล้ายปืนจี้ที่ท้ายทอย จากนั้นสั่งให้ขับรถออกไป พอขับมาสักระยะคนร้ายได้โทรศัพท์หาเพื่อนอีกคน บอกให้ไปรอที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.ทางออกหนองคาย
ขณะนั้นเวลา 21.30 น. พอถึงปั๊มคนร้ายอีกคนได้ขึ้นรถมานั่งด้านหลัง แล้วสั่งให้ตนไปนั่งด้านหลังด้วย โดยบอกให้ก้มหัวลง แล้วคนร้ายก็ขับรถไปเรื่อยๆ โดยคนร้ายได้บังคับขอเงิน และบัตรเอทีเอ็ม พร้อมรหัสบัตร ซึ่งตนได้ส่งเงินจำนวนหนึ่งพร้อมบัตรเอทีเอ็มให้ จากนั้นคนร้ายได้พาตนไปมัดไว้ในห้องน้ำแถวทางรถไฟ แล้วออกไปกดเงิน โดยคนร้ายบอกว่าอีก 10 นาที จะกลับมา ระหว่างนั้นตนสามารถแก้มัดได้จึงได้หลบหนีออกมาขอความช่วยเหลือโดยโบกรถอยู่นานกว่าจะมีคนหยุดรถช่วยเหลือ และพามาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ