บุรีรัมย์ - เกิดเหตุสลดตาวัย 72 ปีชาวบุรีรัมย์ออกไปปล่อยน้ำจากคลองชลประทานเข้านาตามลำพัง เกิดวูบล้มคว่ำหน้าจมน้ำที่ขังอยู่ในทุ่งนาเสียชีวิต ตำรวจพร้อมแพทย์รุดตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบร่องรอยบาดแผลถูกทำร้าย สันนิษฐานเกิดอาการหน้ามืดด้วยโรคชราหรืออากาศที่ร้อนอบอ้าว
วันนี้ (18 มิ.ย.) ร.ต.อ.อัครเดช เพ็งวงษ์ ร้อยเวรฯ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุคนจมน้ำเสียชีวิตบริเวณทุ่งนา ใกล้กับคลองส่งน้ำบ้านม่วงใต้ ม.7 ต.บ้านบัว อ.เมืองบุรีรัมย์ จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาล และหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบชาวบ้านกำลังมุงดูศพชายชรา ทราบชื่อภายหลังคือ นายทิม ปุลันรัมย์ อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 ม.7 ต.บ้านบัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ในน้ำที่ขังในทุ่งนาของตัวเองในสภาพไม่สวมเสื้อ ใส่เพียงกางเกงขาสั้นสีดำ จากการตรวจสอบตามร่างกายเบื้องต้นไม่พบร่องรอยบาดแผลจากการถูกทำร้าย
จากการสอบถาม นายทะเนียม คุณวงศ์ เพื่อนบ้านบอกว่าปกติผู้ตายจะออกมาดูที่หว่านข้าวไว้ และปล่อยน้ำเข้านาเพียงคนเดียวเป็นประจำ กระทั่งวันนี้ได้มีชาวบ้านเดินไปพบนอนคว่ำหน้าจมน้ำที่ขังอยู่ในทุ่งนาเสียชีวิต จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว ขณะที่ญาติไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานสาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นว่า นายทิม ซึ่งมีอายุมากแล้วอาจเกิดอาการหน้ามืดด้วยวัยชรา หรือเกิดจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวในช่วงนี้ จึงทำให้หน้ามืดและล้มหน้าคว่ำเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะได้ส่งศพให้แพทย์โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ตรวจพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง
