อุบลราชธานี - คณะกรรมการแก้ปัญหาเขื่อนปากมูลชุดใหม่เตรียมลงพื้นที่ดูข้อเท็จจริง ต่อด้วยรับฟังความเห็นจากทุกหน่วยงาน ก่อนตัดสินใจเปิด-ปิดประตูระบายน้ำปีนี้
วันนี้( 18 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุบลราชธานีรายงานว่า หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล 31 คน และมีการประชุมนัดแรกที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการมีมติจะลงมาดูสภาพข้อเท็จจริงในพื้นที่ ก่อนใช้เป็นข้อมูลพิจารณาตัดสินใจกรอบวันเวลาเปิดและปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล ตามที่ชาวบ้านกลุ่มสมัชชาคนจนได้ยื่นข้อเรียกร้องให้เริ่มเปิดประตูตั้งแต่เดือน มิ.ย.นี้ เพื่อให้ปลาจากแม่น้ำโขงว่ายขึ้นมาวางไข่ในแม่น้ำมูลในฤดูน้ำหลาก
นายกฤษกร ศิลารักษ์ แกนนำชาวบ้านเขื่อนปากมูล ระบุว่า วันที่ 19 มิ.ย. คณะกรรมการจะมาดูสภาพลำน้ำมูลตั้งแต่ท้ายแก่งสะพือ ถึงท้ายเขื่อนปากมูล และจากหน้าเขื่อนปากมูลไปถึงปากแม่น้ำมูล โดยจุดท้ายแก่งสะพือมีชาวบ้านใน ต.กุดชมพู อ.พิบูลมังสาหาร ใช้เป็นแหล่งเลี้ยงปลากระชังริมแม่น้ำ และตามรายทางจาก อ.พิบูลมังสาหาร ถึงท้ายเขื่อนปากมูล อ.โขงเจียม ซึ่งมีทั้งวังปลาและสถานีสูบน้ำใช้สนับสนุนพื้นที่ทำเกษตรกรรมจำนวนหลายพันไร่
ทั้งนี้ เพื่อพิสูจน์ว่าถ้ามีการเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลในช่วงนี้ น้ำในแม่น้ำมูลไม่ได้ลดลงจนส่งผลกระทบต่อเกษตรกรที่เลี้ยงปลาและปลูกพืชไร่ เพราะมีกายภาพเป็นหลุมลึกที่สามารถเก็บกักน้ำไว้ได้ตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นไปตามที่กลุ่มชาวบ้านปากมูลได้เรียกร้องไว้
หลังจากคณะกรรมการลงมาดูข้อเท็จจริงจะได้ใช้เป็นข้อมูลในการประชุมรับฟังความเห็นจากหน่วยราชการ และชาวบ้านฝ่ายคัดค้าน ที่เกรงจะทำให้น้ำในแม่น้ำมูลลดลง จนเกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อใช้ประกอบการพิจารณากำหนดการเปิดและปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลในปีนี้
สำหรับการเดินทางมาดูพื้นที่ของคณะกรรมการชุดนี้ ประกอบด้วยนักวิชาการและตัวแทนของรัฐบาล นำโดยนางเรณู ตั้งคจิวางกูร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และเป็นรองประธานคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล
ส่วนเขื่อนปากมูล ปัจจุบันยังคงเก็บกักน้ำโดยรักษาระดับไว้ที่ 108 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง สำหรับกลุ่มชาวบ้านปากมูลได้เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนมาแล้วเป็นเวลากว่า 25 ปี
