xs
xsm
sm
md
lg

ฝนถล่มบ้านโป่ง “เสี่ยหนุ่มนครปฐม” ขับเบนซ์ป้ายแดงลอดอุโมงค์รถจมน้ำหวิดดับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ราชบุรี - ฝนถล่มพื้นที่อำเภอบ้านโป่งหนักจนเกิดน้ำท่วมถนนเพชรเกษมสูงเกือบ 3 เมตร “เสี่ยหนุ่มเมืองนครปฐม” ขับเบนซ์ป้ายแดงกลับจากงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อน ขณะลอดอุโมงค์เครื่องรถยนต์เกิดดับ พยายามสตาร์ทแต่ไม่ติดจนน้ำเริ่มเอ่อเข้ามาท่วม ตัดสินใจรีบเปิดประตูรถออกมาได้เพียงแป๊บเดียว ระบบล็อกอัตโนมัติทั้งหมดทำให้รอดตายหวุดหวิด

เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. วันนี้ (15 มิ.ย.) พ.ท.ชุติภัทร วรรณทอง ผบ.ช.พัน.52 ช.1 รอ. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพร้อมรถแบ็กโฮทำการขุดลอกคูริมถนนสายเพชรเกษม เพื่อเปิดทางน้ำให้ไหลระบายออก ตั้งแต่บริเวณหน้าวัดจันทราราม หมู่ 10 ตำบลหนองอ้อ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี เทศบาลตำบลกระจับ และองค์การบริหารส่วนตำบลหนองอ้อ ได้นำรถ และเครื่องสูบน้ำมาทำการสูบน้ำที่ท่วมอุโมงค์ทางลอดถนนเพชรเกษมช่วงแยกข้างวัดจันทราราม เนื่องจากเมื่อช่วงค่ำวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกเทลงมาอย่างหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมหลายพื้นที่ในอำเภอบ้านโป่ง

โดยเฉพาะบริเวณอุโมงค์ทางลอดถนนเพชรเกษม ถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 3 เมตร ที่สำคัญภายในอุโมงค์มีรถยนต์เก๋งยี่ห้อเบนซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียนป้ายแดง ฌศ 1677 กรุงเทพ ถูกน้ำท่วมจมอยู่ภายในอุโมงค์ โดยทางเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองท้องถิ่นได้ช่วยกันใช้เครื่องสูบน้ำออกจากอุโมงค์อย่างอยากลำบาก เพราะพื้นที่อุโมงค์ลอดถนนเพชรเกษมเป็นพื้นที่ต่ำ ทำให้น้ำทุกแห่งซึ่งเกิดจากฝนตกได้ไหลลงมารวมกันภายในอุโมงค์

นายสมบัติ รุจจนเวช อายุ 45 ปี เสี่ยหนุ่มชาวจังหวัดนครปฐม เป็นเจ้าของรถเบนซ์คันดังกล่าว เผยว่า ได้ขับรถออกจากบ้านพักที่จังหวัดนครปฐม ไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดพรรคพวกที่ ต.สวนป่าน อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งพื้นที่ติดต่อกับ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี

หลังจากงานเลี้ยงเลิกตนได้ขับรถฝ่าสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก และได้ขับรถผ่านมาจุดตรงนี้ เป็นทางยูเทิร์นลอดอุโมงค์ เพื่อกลับรถจะกลับไปเข้าตัวจังหวัดนครปฐม ซึ่งจุดกลับรถนี้จะสูงประมาณ 2.50 เมตร จึงได้ขับเข้าไป เป็นช่วงที่ฝนกำลังตกหนัก เห็นน้ำฝนที่กำลังตกลงจากสะพาน และบนถนนไหลลงมาจึงรีบเหยียบเร่งรถให้ขึ้นแต่เครื่องเกิดดับ พยายามสตาร์ทก็ไม่ติดจนน้ำเริ่มเอ่อเข้ามา จึงตัดสินใจเปิดประตูรถออกมา แป๊บเดียวระบบล็อกอัตโนมัติก็ล็อกรถทั้งหมดจึงต้องหนีเอาตัวรอดก่อน หลังออกจากรถได้ประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิรวมใจเข้ามาช่วยเหลือ แต่รถเก๋งเป็นระบบเกียร์ออโต้จะล็อกอัตโนมัติทั้งหมดทำอะไรไม่ได้ จึงได้แต่มองรถของตัวเองจมหายไปในน้ำ

“ตรงจุดนี้เคยมีเหตุการณ์เกิดขึ้นลักษณะแบบเดียวกัน แต่ก็ไม่มีการทำป้ายเตือนผู้ใช้รถ หากมีฝนตกทางเส้นนี้ห้ามเข้าเพราะอาจเกิดอันตราย แต่กลับปล่อยให้ชาวบ้านวัดดวงกัน ผมขับรถมาอย่างปกติ เห็นป้ายก็บอกว่าความสูง 2.50 เมตร เป็นจุดยูเทิร์น ไม่ได้บอกว่าเป็นคลองหรือเป็นที่ระบายน้ำ หากผมขับรถลงไปแล้วผมยอมรับความสะเพร่าที่เกิดขึ้น แต่จุดนี้กลับไม่มีอะไรที่บอกเตือนเลย รถที่ขับตามหลังมาเห็นรถผมติดอยู่ในน้ำต้องเบรกกะทันหัน ซึ่งค่าเสียหายยังไม่ได้ประเมิน แต่ผมซื้อรถมาในราคากว่า 3 ล้านบาท” นายสมบัติ กล่าว



กำลังโหลดความคิดเห็น